Peppermint Bike Park

ถ้าการปั่นจักรยานบนท้องถนนนั้นอันตรายนัก  ลองเปลี่ยนมาปั่นในสนามดูบ้างดีไหม? เปลี่ยนความหวาดเสียวจากการถูกรถยนต์เฉี่ยวชน ให้กลายเป็นความสนุกตื่นเต้นบนเส้นทางสำหรับเสือภูเขาที่คุณจะได้ปีนป่ายและกระโดดผ่านด่าน ทดสอบความกล้า และความแข็งแรง ไปในเวลาเดียวกันที่ ‘Peppermint Bike Park’ สนามจำลองจักรยานเสือภูเขาสุดชิคแห่งแรกในประเทศไทย

 รับรองว่าไม่ยากเกินไปสำหรับมือใหม่ และยังคงท้าทายความสามารถนักปั่นมือเก๋าได้ไม่น้อยเช่นกัน

Peppermint Bike Park เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของนักธุรกิจหญิงที่รักการปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ อย่างคุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ซีอีโอของ บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตยาดมเป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสนามแห่งนี้ด้วย

ด้วยรักและประสบการณ์การปั่นมาอย่างชำนาญ ทำให้เธอสามารถออกแบบสนามโดยไม่มีสนามต้นแบบ เพียงแต่ใช้แค่ภาพถ่ายที่ใกล้เคียงกับสนามในจินตนาการของเธอ แล้วนำมาปรึกษากับทีมเพื่อนนักปั่นที่อยู่ในแวดวงจักรยานหลาย ๆ คน จนเกิดเป็นความร่วมมือกันสร้างสนามแห่งนี้ขึ้นมา

ซึ่งก่อนจะเปิดสนามอย่างเป็นทางการเหล่านักปั่นก็มาทดสอบสนามจนแน่ใจทั้งเรื่องความสนุกและความปลอดภัย

ทีนี้ก็มาถึงเรา (ผู้เขียน) ที่จะลองทดสอบสยามแห่งนี้ดูบ้าง ด้วยประสบการณ์การปั่นอันน้อยนิดแบบใจระทึก ก่อนจะปั่นเข้าสู่แทรค มาดูแผนที่ด้านหน้าสนามเพื่อศึกษาเส้นทางและด่านต่าง ๆ ให้แน่ใจกันก่อน

เมื่อพร้อมแล้วแล้วก็คว้าจักรยานตามเรามาได้เลย แต่ถ้าหากไม่มีจักรยานมาเองก็สามารถเช่าจักรยานเสือภูเขาพร้อมหมวกได้ในราคาชั่วโมงละ 100 บาท

ซึ่งการใส่หมวกและอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยนี้เป็นเรื่องสำคัญที่มาร์แชล (เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล) ต้องย้ำทุกครั้ง ใครไม่ใส่ไม่ให้เข้าสนามเลยล่ะ

ในรอบแรกขอปั่นแบบสำรวจสนามในเลนสีฟ้าซึ่งเป็นทางเรียบรอบสนามความยาว 500 เมตร ไปพร้อม ๆ กับผู้ควบคุมการปั่น หรือที่เรียกกันว่า ‘มาร์แชล’ ที่อยู่ประจำสนามคอยดูแลความปลอดภัย ทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนให้ด้วย โดยแต่ละด่านจะค่อย ๆ ฝึกการทรงตัว เปลี่ยนเกียร์ และควบคุมความเร็ว

รอบนี้เราจึงได้สังเกตความสวยงามของสนามไปด้วย ตรงกลางของสนามเป็นหญ้าเทียม ตกแต่งด้วยหินและกองฟาง รายล้อมด้วยไม้ระแนง เห็นลูกคลื่นทั้งเล็กและใหญ่อยู่ทั่วสนาม บริเวณทางโค้งส่วนใหญ่จะมีเนินรับไม่ให้นักปั่นหลุดโค้งออกไป

พอครบแล้วเราก็วนเข้าเลนสีดำเพื่อแอดเวนเจอร์กันดูซักตั้ง  พอเลี้ยวปุ๊บก็เจอกับด่านแรกคือเนินลูกคลื่นยักษ์ สำหรับมือใหม่พอเจอความสูงของเนินข้าไปอาจหวั่นนิด ๆ แต่พอตั้งสติได้ก็สามารถปั่นผ่านพร้อมความสนุกและความมั่นใจเพิ่มขึ้น

แล้วไปต่อที่ด่านโค้งวัดใจที่เปิดโอกาสให้เราได้สำแดงทักษะการทรงตัวในการเลี้ยว ว่าจะสามารถเลี้ยวโค้งหลังจากผ่านคลื่นหลายลูกได้อย่างสวยงามหรือไม่

จากนั้นจะมีทางไม้ระแนงให้ปั่นวนไปมาสนุก ๆ ช่วยเพิ่มทักษะการปั่นได้มากทีเดียว มีทั้งสะพาน เนิน และทางแยกให้วนอ้อมหรือตัดเป็นทางลัดโดยมีป้ายเตือนเรื่องทางโค้งและความเร็วให้ตลอดทาง

มาถึงด่านไม้หมอนพยศที่ใช้ไม้หมอนมาเรียงต่อกัน ซึ่งมีการจัดวางแบบต่างระดับกันบ้าง อีกทั้งด่านทางไม้ลาดชันที่มีอยู่ทั่วสนาม ทางหินลาดลงที่ต้องใช้ทักษะมากพอสมควร ก่อนจะมาเจอทีเด็ดอีกครั้งที่โค้งปีกผีเสื้อให้ได้วาดลวดลายกันเต็มที่ แต่ขอเตือนนิดว่าตรงนี้เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์สูงเท่านั้นเพราะทั้งสูงและชัน ฝีมือเด็ก ๆ อย่างเราปั่นตามทางธรรมดาไปก่อนแล้วกัน เช่นเดียวกับด่านสะพานขาดที่ค่อนข้างอันตรายด้วยความสูงเกือบ 2 เมตร (ปกติปิดไว้ไม่ให้ใช้ ยกเว้นจะมีนักปั่นมืออาชีพมาเล่นเท่านั้น โดยอยู่ในความดูแลของมาร์แชล)

สนุกสนานเร้าใจกันเต็มที่ก็มาปิดท้ายด่านยอดฮิตชื่อว่า ‘13 ลูกคลื่น’ ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันยกให้เป็นด่านในดวงใจ โดยที่เด็กจะค่อย ๆ ปั่นผ่านด่านไปแบบชิล ๆ ในขณะที่ผู้ใหญ่จะใช้วิธีปั่นให้ไปอย่างรวดเร็ว ตรงจุดนี้เองที่คุณจะได้ออกกำลังกายเต็มที่บริเวณกล้ามเนื้อแขนแบบตรงจุด  จนบางครั้งคนที่มาเล่นด่านนี้แรก ๆ อาจมีบ่นว่าเมื่อยไม่แพ้วิดพื้นเลย

แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าด่านที่ดูเหมือนง่ายอย่างนี้ หลายคนปั่นเข้าไปแค่ 3 ลูกคลื่นก็ต้องถอดใจขอบายไม่ไปต่อ

ปั่นกันมาครบรอบ ต้องบอกเลยว่าทักษะการปั่นของผู้เขียนเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ทั้งยังสนุกสนานแบบอินเทรนด์ได้อย่างปลอดภัยสบายใจ  เชื่อว่าอีกไม่นานสนามแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของกลุ่มนักปั่นทั้งหลาย ที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ในการปั่นจักรยานร่วมกัน

จนน่าจะเรียกได้ว่า Peppermint Bike Park เป็นสนามจักรยานเสือภูเขาสำหรับคนเมืองได้อย่างแท้จริง เอาเป็นว่าทำงานเครียดกันมาทั้งวัน มาปลดปล่อยด้วยการปั่นจักรยานบนด่านที่สนุกสนานแบบนี้ น่าจะทำให้ชีวิตดี๊ดีไม่แพ้การแฮงค์เอาท์รูปแบบอื่น ๆ เลยจริงไหม ถ้างั้นมาปั่นกันเถิดชาวไทย

 

 

text: Wat.D