My first Opera
โอเปร่า ประกอบชีวิต
บางครั้ง ประสบการณ์สำคัญ ๆ ในชีวิต มันก็เกิดขึ้นง่าย ๆ ในนาทีใดนาทีหนึ่ง โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและโดยปราศจากการคาดเดา ประสบการณ์สำคัญอย่างที่ว่ามักจะสร้างความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจให้เสมอ และความตื่นตาตื่นใจในคราวนี้ของผู้เขียน เป็นความตื่นตาใจระดับ คอนเสิร์ตโอเปร่า
คอนเสิร์ตโอเปร่าที่ว่าคือ “MAHANAKHON A MAGICAL NIGHT WITH ANDREA BOCELLI : THE WORLD’S MOST BELOVED TENOR” โดยเป็นการมาเยือนประเทศไทยครั้งแรกของศิลปินโอเปร่าระดับโลก “อันเดรอา โบเชลลี” เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ข่าวว่าเป็นการจัดคอนเสิร์ตที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศทีเดียว นั่นก็เพราะ อันเดรอา โบเชลลี นั้นเป็นนักร้องโอเปร่าที่มีค่าตัวแพงมหาศาล นั่นคงเพราะเสียงสูง (Tenor) ทรงพลังพิเศษ และความพิเศษอื่น ๆ ในตัวนักร้องโอเปร่าชื่อก้องโลกผู้นี้
กองบรรณาธิการส่งข่าวมาสั้น ๆ ว่า ผู้เขียนน่าจะได้ไปชมคอนสิร์ตโอเปร่าสุดอลังการคราวนี้ และใช่! นั่นเป็นคำสั่ง
คอลัมน์ Rest ฉบับนี้ เราจะมารู้จักโอเปร่ากันพอหอมปากหอมคอ แล้วเราจะมาปลดปล่อยจินตนาการไปกับเสียงอันทรงพลังและเปี่ยมไปด้วยความหมายกัน เปล่าเลย ผู้เขียนไม่ได้หมายให้ท่านผู้อ่านไปหาชมคอนเสิร์ตโอเปร่าสุดหรูที่ไหน ๆ แต่จะมาเล่าบรรยากาศที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปฟังโอเปร่าครั้งแรกในชีวิต แล้วคุณผู้อ่านลองไปค้นเพลงโอเปร่าที่ไพเราะ ๆ ในสื่อออนไลน์เพื่อหัดดื่มด่ำกับเพลงโอเปร่ากันสักเพลงสองเพลง
โอเปร่าส่วนใหญ่เป็นภาษาอิตาเลี่ยน และมีบางส่วนเป็นภาษาเยอรมัน ใช่ แน่นอนเลยที่เราจะฟังเนื้อหาของเพลงไม่รู้เรื่อง อาจเป็นความกังวลแรก ๆ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะรู้สึกกัน เหตุผลที่โอเปร่ามักเป็นภาษาอิตาเลี่ยนนั่นก็เพราะ เป็นภาษาบ้านเกิดของดนตรีโอเปร่า นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิคที่มีชื่อเป็นอมตะ ส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาเลี่ยน แต่ดนตรีเป็นภาษาสากล ถ้าเราลองเปิดใจฟัง สุนทรียะและอารมณ์ของบทเพลง ประกอบกับความสามารถของนักร้องจะทำให้เราเพลิดเพลินกับมันได้ไม่ยากเลย และ อันเดรอา โบเชลลี ก็เป็นอย่างนั้น
อันเดรอา โบเชลลี เป็นนักร้องระดับพรสวรรค์ ที่มีความอะลุ่มอล่วยไม่ยึดติด แต่ก็เข้าใจอารมณ์และธรรมชาติดนตรีอย่างถ่องแท้พิถีพิถัน ทำให้เพลงของอันเดรอา โบเชลลี นั้นเข้าถึงง่ายขึ้นอีกระดับหนึ่ง เป็นแนวเพลงโอเปร่าที่เรียกกันว่า ป๊อบ โอเปร่า หรือ แนว ครอสโอเวอร์ เหมาะแก่เรา ๆ ท่าน ๆ ซึ่งกำลังจะเป็นผู้ฟังโอเปร่าระดับเริ่มต้น และเพลงแรกที่อยากให้ลองฟังเสียงของ อันเดรอา จาก YouTube ก็คือเพลง “The Prayer” ที่เขาร้องร่วมกับ ซิลีน ดิออน
มาถึงในส่วนบทบาทและบรรยากาศบนเวทีคอนเสิร์ตที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปชมนั้น เพียงเริ่มต้นก็ได้เห็นความอลังการของวงออเคสตร้า “MahaNakhon Philharmonic Orchestra” ที่มีสมาชิกถึง 131 คนบนเวทีก็น่าตื่นเต้นแล้ว ยิ่งระบบแสง สี และเสียง ที่มีคุณภาพระดับโลก ก็ยิ่งสะกดผู้ชมทุกคนให้ดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรี
บนเวที เสียงของอันเดรอา โบเชลลี นั้นแสนพิเศษ และหากท่านผู้อ่านได้ลองเปิดดูบันทึกการแสดงของเขาในสื่อออนไลน์แล้ว ท่านก็จะพบว่า อันเดรอา โบเชลลี เองก็ยิ่งเป็นบุคคลพิเศษ เขาสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่อายุ 12 ปี เขาไม่ใช่เพียงเป็นศิลปินโอเปร่าชื่อก้องโลกเท่านั้น เขายังเป็นพ่อพระที่อุทิศตัวเพื่อองค์กรการกุศลต่าง ๆ ทั้งยังตั้งองค์กรการกุศลของตนเองขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็ก คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ และด้วยเหตุผลพิเศษนี้เอง ที่บนเวทีผู้เขียนจับสังเกตเห็นมิตรภาพอันอบอุ่นระหว่างเขาและเพื่อน ๆ ของเขา ที่ร่วมแสดงด้วยกันอย่าง คาร์โรล เบอร์นินี สุดยอดคอนดักเตอร์ระดับโลก ที่เป็นทั้งครูสอนเปียโน เพื่อน และคอยเป็นดวงตาให้เขาบนเวที
นอกจากนี้ อันเดรอา โบเชลลี ยังได้เชิญเพื่อนรักอย่าง เดวิด ฟอสเตอร์ โปรดิวเซอร์มือทองเจ้าของ 15 รางวัลแกรมมี่ อวอร์ด มาร่วมบรรเลงและขับร้องเพลงฮิตอย่าง Can’t Help Falling In Love, La Forza Del Sorriso และเดวิด ฟอสเตอร์นี่เองที่เป็นสีสันบนเวทีและเป็นผู้คอยสร้างเสียงหัวเราะให้คอนเสิร์ตคราวนี้ นอกจากนี้ยังมีศิลปินรับเชิญนักร้องสาวเสียงดีจากเวทีการประกวด American Idol อย่าง แคทเธอรีน แม็คฟี ที่มาพร้อมกับ แจ็กกี้ อีแวนโค่ สาวน้อยเสียงมหัศจรรย์จากเวที America’s Got Talent และนักร้องเสียงโซปราโนชาวคิวบา มาเรีย อะเลย์ดา ร่วมด้วยศิลปินรับเชิญจากไทยน้องไมร่า มณีภัสสร มอลลอย และคู่หูมือกีตาร์อย่าง คาริสม่า มาร่วมเล่นกีตาร์เพลงบรรเลงสร้างความประทับใจให้กับคอนเสิร์ตในครั้งนี้อีกด้วย
สองชั่วโมงของการแสดงจึงผ่านไปไวกว่าที่คิดไว้ เมื่อเพลง“Time to Say Goodbye” เพลงเอกสร้างชื่อของ อันเดรอา โบเชลลี จบลง ผู้ชมก็ตระหนักถึงงานเลี้ยงที่ถึงคราวเลิกรา ถึงตอนนี้ผู้ชมส่วนใหญ่เริ่มยืนขึ้นเพื่อปรบมือให้เกียรติ และให้กำลังใจศิลปินบนเวที เมื่อยืนขึ้นก็พอจะทำให้ผู้เขียนเห็นว่า ผู้ชมคอนเสิร์ตโอเปร่าค่ำคืนนี้ มีแต่ระดับบุคคลสำคัญของเมืองไทย บุคคลสำคัญในวงการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องยาวนานนี่เองที่ทำให้ อันเดรอา โบเชลลี ขึ้นเวทีมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อร้องเพลง ‘แถม’ ให้พวกเราได้ฟังกัน
บทเพลงในคอนเสิร์ตโอเปร่าครั้งแรกในชีวิตคราวนี้ ผู้เขียนฟังออกไม่ถึงครึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกว่า ‘เข้าใจ’ และจะจดจำไว้เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญ และขอนับให้เป็น ‘เพลงประกอบชีวิต’ ในช่วงเวลาหนึ่ง และด้วยเหตุนี้ทำให้นึกไปถึงบทสัมภาษณ์ของ อันเดรอา โบเชลลี ที่เคยได้อ่านมา เขากล่าวถึงคอนเสิร์ตนี้ว่า “ผมขอกอดทุก ๆ ท่านด้วยความขอบคุณสำหรับความชื่นชมและไว้วางใจที่มีให้ เราจะร่วมกันเฉลิมฉลองความงดงามของดนตรีซึ่งเปรียบเสมือนเสียงสะท้อนของจิตใจ เป็นดั่งภาษาสากลที่เหนือกว่าภาษาใด ๆ ดนตรีจะสื่อสารแห่งสันติสุขอันชัดเจน ตลอดจนความเป็นพี่น้องของชาวโลกขอเพียงเปิดความคิดและให้อิสระกับหัวใจ”
ผู้เขียน : ชนินทร์ อรุโณทัย
ภาพ : บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด
