Top

How to Create the New Value for Event Industry

How to Create the New Value for Event Industry

การใช้พัฒนาการทางเทคโนโลยีมาสร้างเป็นมูลค่าเพิ่มใหม่ทางการตลาด คือแนวคิดหลักที่ทุกอุตสาหกรรมในโลกธุรกิจสมัยใหม่ให้ความสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่วงการอีเวนท์ออแกไนเซอร์ ที่ต้องพึ่งพิงพัฒนาการทางเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้สร้างเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับเนื้องาน

Cover Story ฉบับนี้ของเรา ได้ตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวของการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างสรรค์เป็นมูลค่าเพิ่มใหม่ทางการตลาด และเพื่อการสร้างงานอีเวนท์รูปแบบใหม่ที่ตอบสนองกับ Digital Lifestyle ของคนยุค 4.0

นอกจากนั้นเรายังมีบทสัมภาษณ์สั้น ๆ ในประเด็นการเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีเชิงอีเวนท์ (Event Tech Tools) ของผู้ทรงอิทธิพล (Influencer) ระดับโลกในวงการนี้ ที่จะมาแชร์ไอเดียว่าเครื่องมือที่เขาเลือกใช้นั้นมีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจของเขา

แล้วคุณจะได้เห็นภาพว่าเทคโนโลยีฮิต ๆ ทั้ง Big Data, Wearable Device, Robot, Drone และอีกมากมายในบทความ สามารถสร้างความต่างให้เกิดเป็นมูลค่าใหม่ทางการตลาด ต่อยอดเป็นความสำเร็จทางธุรกิจที่สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างไร

 

ใช้ Big Data เพิ่มศักยภาพให้งานอีเวนท์

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรื่องของ Big Data มักเป็นหัวข้อหลักในการพูดคุยของนักพัฒนาธุรกิจหลากหลายวงการ เมื่อต้องพูดถึงเทรนด์หลักทางเทคโนโลยีประจำปี ซึ่งในอุตสาหกรรมอีเวนท์ก็เช่นกัน การรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประมวลผลออกมาเป็นคำตอบที่ชัดเจนมีอิทธิพลอย่างมากในการเปลี่ยนรูปโฉมของอุตสาหกรรมในอนาคต

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดก็คือการที่ออแกไนเซอร์ใช้เครื่องมือ Google Analytic เพื่อค้นลึกไปหาข้อมูลเชิงประจักษ์ต่าง ๆ ให้เห็นว่าแคมเปญออนไลน์อันไหนมีผลชักจูงใจให้คนอยากลงทะเบียนเข้าร่วมงาน หรือแคมเปญไหนออนไลน์ใดกำลังเป็นหัวข้อที่ถูกนำไปพูดคุยกันอย่างเอิกเกริกในสื่อโซเชียลมีเดีย ณ ตอนนี้

นอกเหนือจากการตรวจสอบ การรวบรวมข้อมูล และการประมวลผลแล้ว Big Data ยังทำอะไรได้มากกว่านั้น นั่นคือเป็นเครื่องมือในการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เข้าร่วมงานด้วยการใช้ไวไฟ, GPS, iBeacon หรือจะเป็น Bluetooth พลังงานต่ำ เพื่อเก็บสถิติให้รู้ว่าเขาเหล่านั้นเดินไปยังส่วนไหน บูธไหนของงานบ่อยครั้งที่สุด

ทั้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการส่งแบบสอบถาม หรือแบบสำรวจไปถึงตัวผู้เข้าร่วมงานได้แบบทันท่วงที ตามแต่ที่ผู้จัดอยากทำทั้งก่อนเริ่มงาน ระหว่างงาน หรือหลังจากจบงาน

 

พัฒนาการมีส่วนร่วมแก่ผู้ร่วมงาน

ไม่ใช่แค่การประมวลผลด้วย Big Data เท่านั้น ที่สามารถเปลี่ยนอนาคตของวงการอีเวนท์ได้ เครื่องมือทางเทคโนโลยี หรือที่เราเรียกว่า ‘Event Tech Tools’ ยังมีพลังอำนาจในการสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ของมวลชนที่เกิดขึ้นกับงานอีเวนท์ งานแสดงสินค้า และงานประชุมสัมมนารูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย

ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเรื่องเหล่านี้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเครื่องมือเหล่านี้ผู้ชมหรือผู้ร่วมงานสามารถหยิบจับนำมาโหลดลงเครื่องสมาร์ทโฟน หรือใช้ผ่านเว็บไซต์ อาทิ Speechoe เครื่องมือช่วยในการดูพรีเซนเทชั่น และการเขียนโน้ตออนไลน์โต้ตอบแสดงความคิดเห็นกับออแกไนเซอร์และผู้บรรยาย

หรือจะเป็น Evolero ก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับงานด้วยการใช้เป็นตัวช่วยในการวางแผนของทั้งผู้บรรยาย สปอนเซอร์งาน และผู้เข้าชม  ทั้งยังสามารถใช้เป็นพื้นที่ออนไลน์สร้างเป็นคอมมูนิตี้เพื่อให้ทั้งสามฝ่ายได้ปะทะสังสรรค์สร้างงานอีเวนท์ครั้งต่อ ๆ ไปให้ดีขึ้น

 

ใช้ Sensor และ Wearable Technology สร้างนวัตกรรมใหม่

อีกหนึ่งแรงผลักสำคัญที่ทำให้วงการอีเวนท์เปลี่ยนโฉมหน้าในอนาคต และเป็นแรงสำคัญที่ทำให้การพัฒนาเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว นั่นคือดิจิทัลเทคโนโลยีที่สอดแทรกอยู่ทุกอณูของวิถีชีวิตมนุษย์ในวันนี้ ซึ่งเครื่องมือที่ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอันเป็นประโยชน์ต่อการจัดงานอีเวนท์ และงานประชุมสัมมนาต่าง ๆ ก็คืออุปกรณ์เซนเซอร์อัจฉริยะ และอุปกรณ์ไฮเทคแบบสวมใส่ (Wearable Device) นั่นเอง

คุณอาจจะสงสัยว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถพลิกโฉมวงการอีเวนท์ในอนาคตได้อย่างไร? ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ บริษัท Connect&Go ที่พัฒนาสายรัดข้อมือรับส่งข้อมูล RFID ให้เป็น Wearable Device อัจฉริยะสำหรับใช้ในงานอีเวนท์ ซึ่งสายรัดข้อมือนี้ถูกบรรจุฟังก์ชั่นการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการใช้แทนเงินสด ใช้เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งใช้แทนบัตรเข้างานเพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษอีกด้วย

อีกตัวอย่างก็คือ Bright Interactive  บริษัทผู้ให้บริการสื่อ  Digital Interactive ที่นำอุปกรณ์เซนเซอร์มาสร้างเป็นนวัตกรรมทางด้านเกมและจอภาพเพื่อใช้กับงานอีเวนท์ ซึ่งผลงานเชิงประจักษ์ที่คนต่างทึ่งของ Bright Interactive สร้างทีมร่วมมือ Victoria Exhibitions  เพื่อสร้างงานแสดงเชิงเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาอย่าง ‘Marvel Avengers S.T.A.T.I.O.N.’ ที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก

ใครอยากชมลองไปดูรีวิวที่ลิงก์นี้ได้เลย www.youtube.com/watch?v=MQAM_PFWsb4&t=298s

 

สร้างประสบการณ์เฉพาะตัวด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยี

ในยุคที่เราทุกคนถูกปลดล็อคให้สามารถเข้าถึงทั้งข้อมูลและเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง ในวันนี้อีเวนท์แพลนเนอร์ทั้งหลายก็สามารถประยุกต์ใช้ทั้งข้อมูลและเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ มาสร้างเป็นประสบการณ์ส่วนตัวแบบเฉพาะเจาะจง(Personalize) ให้แก่ผู้ร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้เทคโนโลยีมาสร้างเป็นประสบการณ์ส่วนตัวรูปแบบต่าง ๆ นี้แหละเป็นพลังอำนาจสำคัญสามารถทำให้อีเวนท์เล็ก ๆ ชนะอีเวนท์ใหญ่ ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในแง่ของการดึงคน หรือสร้างกระแสความน่าสนใจให้คนมาร่วมงานได้มากกว่า ถ้าจะให้ไกด์ว่าควรใช้อะไร เราขอแนะนำว่าเครื่องมืออย่าง Pathable หรือ Goombal นี่แหละจะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถสร้างงานในรูปแบบดังกล่าวได้

เพราะสองเครื่องมือที่กล่าวไป จะทำให้คุณสามารถตั้งค่าการเข้าถึงของผู้ร่วมงาน ผู้บรรยาย และสปอนเซอร์ ข้อมูลที่ถูกรวบรวมกลั่นกรองผ่านระบบเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ทำให้คุณคิดออกแบบงานได้เหมาะสม ถูกต้องตรงใจกับความต้องการของผู้เข้าร่วมงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เพิ่มมิติใหม่ให้งานอีเวนท์ในมุมมองของ VR

ถ้าคุณได้ลองติดตามการประชุมสัมมนาทางเทคโนโลยี หรือติดตามงานแสดงเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ของโลก สิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะพูดถึงไม่แพ้เรื่องของ Big Data หรือ Wearable Device ก็คือเรื่อง VR (Virtual Reality) นั่นเอง เพราะอุปกรณ์สวมใส่เสมือนจริงที่คุณสามารถมองเห็นได้ด้วยตานี้สามารถพาเราไปสัมผัสกับงานอีเวนท์ใหญ่ ๆ ได้ทุกงาน โดยที่คุณไม่ต้องเหนื่อยยากในการจองสิทธิ์ หรือลำบากลำบนในการเดินทางแสนไกลเพื่อไปร่วมงานอีกต่อไป

เพราะเพียงแค่หยิบแว่น VR มาใส่ งานอีเวนท์ที่ว่าหาโอกาสไปร่วมยาก ๆ เหล่านั้นจะมาปรากฏขึ้นต่อหน้าคุณทันที! ซึ่งตอนนี้งานอย่าง Sundace Film Festival หรืองานอีเวนท์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาเกมใหญ่ ๆ หลายงาน ต่างใช้วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ภายในกันแล้ว

เพราะฉะนั้นในวันนี้ Virtual Reality จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงกับอุตสาหกรรมอีเวนท์ในอนาคต ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์แห่งความประทับใจ ในการดึงคนดู สปอนเซอร์ ให้ก้าวเข้ามาสู่งานอีเวนท์ที่คุณจัดได้อีกมากมาย

 

ใช้จักรกล Robot และ Drone สร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ให้แก่งาน

ถ้า VR ถูกพูดถึงในแวดวงนักพัฒนานวัตกรรม เราเชื่อว่าเรื่องของหุ่นยนต์และอากาศยานไร้คนขับที่เราเรียกว่า “โดรน” ก็จะถูกพูดถึงไม่น้อยเช่นกัน เพราะในวันนี้ทั้งจักรกลโรบอทและโดรนถูกพัฒนาให้เป็นเครื่องมือใช้งานประสิทธิภาพสูง และช่วยลดต้นทุนด้านทรัพยากรบุคคลได้อย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับวิถีการทำธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้มันยังเป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีชิ้นสำคัญที่สามารถพลิกโฉมวงการอีเวนท์ในวันนี้และอนาคตตัวอย่างของการใช้หุ่นยนต์มาผสมผสานสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานอีเวนท์ ก็คือการนำมาใช้สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน อย่างเช่น การนำหุ่นยนต์มาเป็นบาร์เทนเดอร์ หรือใช้เป็นดีเจเปิดแผ่นกำหนดจังหวะให้งานปาร์ตี้ต่าง ๆ มีสีสันมากขึ้น หรือแม้กระทั่งใช้เป็นตัวจับภาพบรรยากาศที่เกิดขึ้นรอบ ๆ งาน มาแพร่ภาพผ่านสไกป์ให้คนที่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมงานได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง

ในส่วนของโดรนนั้นทุกคนก็คงทราบกันดีว่าใช้อย่างไร เพราะในปัจจุบันมีออแกไนเซอร์ของไทยนำเครื่องมือนี้มาใช้ถ่ายภาพเพื่อนำเสนองานของตัวเองในมุมมองสุดพิเศษ และความสารพัดประโยชน์ของโดรนไม่ได้มีดีเฉพาะแค่การถ่ายภาพเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีคนนำอากาศยานไร้คนขับมาใช้แทนบริกรเสิร์ฟเครื่องดื่มในงาน เพียงคุณสั่งเครื่องดื่มผ่านแอปพลิเคชั่นที่ออแกไนเซอร์สร้างขึ้น โดรนก็จะนำเมนูโปรดที่คุณสั่งมาส่งให้ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำอีกด้วย

 

 

 

Influencer’s Opinion

ในหัวข้อที่แล้วเราได้เล่าว่าเครื่องมือทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ นั้นมีอิทธิพลในการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการอีเวนท์ในทิศทางใดไปแล้ว ทีนี้ก็เลยอยากพูดถึงอะไรที่มันใกล้ตัว แบบที่เห็นภาพชัดเจนขึ้นไปอีก นั่นคือความคิดเห็นของผู้มีอิทธิพล(Influencer) ในวงการมาร์เกตติงอีเวนท์ระดับไอดอลจำนวน 5 คน เราเชื่อว่าคำตอบของพวกเขาน่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกเครื่องมือทางเทคโนโลยีไปใช้ได้ตรงความต้องการกับธุรกิจของคุณ

 

Will Curran

Chief Event Einstein จาก Endless Entertainment

Q : อะไรคือเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับงานอีเวนท์ที่คุณจะขาดมันไม่ได้

A : Shoflo ครับ เมื่อทีม AV ของผมถูกขอให้จัดระเบียบคิว 300 รายการสำหรับการแสดงใน 3 ชั่วโมง Shoflo ทำให้งานตรงนี้เป็นเรื่องง่ายมาก

Q : เครื่องมือนี้มีความสำคัญกับธุรกิจคุณอย่างไร

A : ในกรณีที่ลูกค้าต้องการคิวหลายรายการ Shoflo ทำให้เราสร้างตารางงานเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่วและง่ายดาย ผมสามารถติดต่อทีมงานของเรา สร้างตารางผลิตโปรดักท์ชั่น และจัดการระบบโชว์คอลสำหรับอีเวนท์ที่กำลังจะมาถึงได้อย่างครบถ้วน เพราะข้อมูลสำหรับการผลิตทั้งหมดถูกนำมาลงไว้ในระบบเดียว ผมจึงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจะทำงานได้อย่างไรหากไม่มีมัน

 

Benedetta Rossi

Senior Event Planning Manager จาก Park Hyatt Beijing

Q : อะไรคือเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับงานอีเวนท์ที่คุณจะขาดมันไม่ได้

A : Social Tables ค่ะ ชั้นชอบความสามารถของมัน ทำให้เราสามารถอัพโหลดแผนผังชั้นในทุกสถานที่ที่เราต้องการ

Q : เครื่องมือนี้มีความสำคัญกับธุรกิจคุณอย่างไร

A : มันช่วยเหลืองานของเราได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องไปจัดอาหารสำหรับงานเลี้ยงภายนอก ซึ่งเป็นรายได้หลักของเรา ความสามารถของ Social Tables ในการจัดทำแผนผังชั้นที่ถูกต้องในบางแห่งที่มีความซับซ้อน ทำให้เราได้เปรียบด้านการแข่งขัน ด้านการอำนวยความสะดวก แน่นอนว่ามันเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมงานของเราไม่คุ้นเคยกับสถานที่นั้น

 

 

Nick Borelli

President & Strategist จาก Borelli Strategies Marketing Consulting Firm

Q : อะไรคือเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับงานอีเวนท์ที่คุณจะขาดมันไม่ได้

A : Glisser ครับ ในงานที่ทำ ผมต้องพูดคุยกับนักจัดงานอีเวนท์ระดับมืออาชีพทั่วโลกหลายคน และการใช้เครื่องมือนี้คือวิธีการสร้างการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ปรึกษาหารือสำหรับการสร้างงานพรีเซนเทชั่นที่ดี หรือแม้กระทั่งการติดตามงานต่าง ๆ ผ่านอีเมล

Q : เครื่องมือนี้มีความสำคัญกับธุรกิจคุณอย่างไร

A : ในฐานะที่เราเป็นธุรกิจแบบ B2B ความสามารถในการจับที่อยู่อีเมลของคนดูพรีเซนเทชั่นของผม (ซึ่งจะจับคู่กับคำตอบสำหรับคำถามเฉพาะเจาะจงจากพรีเซนเทชั่นของเรา) ซึ่งการจับคู่ช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่นักจัดงานระดับมืออาชีพในการเป็นลูกค้าของเราในอนาคต

 

 

Marie-Claire Andrews

Founder & CEO จาก ShowGizmo

Q : อะไรคือเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับงานอีเวนท์ที่คุณจะขาดมันไม่ได้

A : Google Docs ค่ะ

Q : เครื่องมือนี้มีความสำคัญกับธุรกิจคุณอย่างไร

A : คุณสามารถใช้ได้ฟรี ใช้งานง่าย และดีสำหรับการทำงานนอกสถานที่ไกล ๆ ในสภาวะแวดล้อมที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับรูปแบบการทำงานของอีเวนท์แพลนเนอร์ทุกคน

 

 

Laura Lopez

Senior Community Manager จาก Social Tables

Q : อะไรคือเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับงานอีเวนท์ที่คุณจะขาดมันไม่ได้

A : สิ่งที่ชั้นขาดมันไม่ได้คือ Slack ค่ะ

Q : เครื่องมือนี้มีความสำคัญกับธุรกิจคุณอย่างไร

A : การทำงานร่วมกันและการใช้เครื่องมือสนับสนุนมีความสำคัญต่อธุรกิจของชั้นอย่างมาก ตรงนี้เองที่เครื่องมืออย่าง Slack ช่วยให้ฉันสามารถติดต่อสื่อสารกับทีมได้เร็วขึ้น ทั้งยังช่วยในการเคลียร์อีเมลที่ไม่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว

mkteventmag
No Comments

Post a Comment