Top

Dare to Win in The Supernova Crisis

Dare to Win in The Supernova Crisis

Text: Boonake A.

 

 

อีกไม่กี่อึดใจโลกใบนี้กำลังจะเคลื่อนผ่านเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 ห้วงยามดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่นักเศรษฐศาสตร์และกูรูทางด้านเศรษฐกิจชื่อดังระดับโลกทั้งหลายต่างออกมาให้คำทำนายว่าโลกทั้งใบกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งวิกฤติครั้งนี้จะยิ่งใหญ่มากระดับ Supernova ส่งผลกระทบร้ายแรง ถึงขั้นอาจจะทำให้องค์กรใหญ่ระดับโลกหลายแห่งถึงคราวแตก ก่อตัวเป็นแรงดึงฉุดรั้งให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดอาการชะงักงันครั้งใหญ่

 

จากข้อมูลดังกล่าวเชื่อว่าใครที่ได้ฟังคงตระหนกตกใจไม่น้อย แม้แต่ตัวผมเองไม่ได้เป็นนักธุรกิจหรือพ่อค้าอะไรกับเขายังตกใจเลยครับ เพราะต้องยอมรับว่าเรื่องของปากท้องมันคือเนื้อแท้ของการดำรงชีวิตของเราทุกคนจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเชื่อคำพูดหนึ่งที่เป็นวลีสุดคลาสสิคว่า “ในยามวิกฤติไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ยังมีโอกาสใหม่ให้ไขว่คว้าได้เสมอ ขึ้นอยู่กับคุณจะสามารถมองมันเห็นได้หรือไม่เท่านั้น”

 

Cover Story ของ MKT Event ฉบับนี้ จึงอยากพาคุณไปเรียนรู้กรณีศึกษาจากการทำธุรกิจของแบรนด์ชั้นนำระดับทั้งโลกทั้ง 9 แบรนด์ ที่สร้างธุรกิจใหม่จากความคิด และการมองไปยังสังคมโลกที่กว้างใหญ่ แปรเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ได้อย่างแนบเนียน ชนิดที่ไม่ว่าวิกฤติจะรุนแรงแค่ไหน มูลค่าเพิ่มใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะสามารถประคับประคององค์กรให้เดินหน้าไปได้ตลอดรอดฝั่ง ว่าแต่พวกเขาสร้างหรือทำอะไรขึ้นมาบ้าง บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้ายของบทความนี้มีคำตอบ

 

 

 Cover23 1

 

Starbucks : สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ด้วยประสบการณ์และรสสัมผัสระดับพรีเมี่ยม

การสร้างกลยุทธ์บริหารจัดการด้านประสบการณ์ (Experience Management) นั้น ต้องยอมรับกันแบบตรงไปตรงมาเลยว่าไม่มีใครสร้างกลยุทธ์ดังกล่าวได้เก่งเท่ากับ Starbucks อีกแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจ สตาร์บัคส์จึงไม่รั้งรอที่จะนำจุดแข็งนี้มาขยายผล ก่อกำเนิดเป็นแฟลกชิพสโตร์รูปแบบใหม่ ที่ชื่อ ‘Starbucks Roastery’  โรงงานกาแฟทรงเสน่ห์ เปิดเปลือยให้เห็นทุกขั้นตอนอันน่าตื่นตาของการคั่วกาแฟสูตรเฉพาะแบบอิตาเลียน คุณสามารถเลือกกาแฟที่อยากดื่มได้เอง แถมมีเชฟมาปรุงกาแฟต่อหน้า พร้อมคำแนะนำในการจับคู่กาแฟกับอาหารที่ใช่ เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มที่ดีที่สุดนั่นเอง

ในระยะเกือบ 2 ปีของการเกิด Starbucks Roastery เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สตาร์บัคส์จึงทำการต่อยอดประสบการณ์อันแสนยอดเยี่ยมนั้นด้วยการเข้าไปลงทุนร่วมกับ ‘Princi ’ แบรนด์เบเกอรี่และอาหารระดับบูทีคของอิตาลี นั่นหมายความว่าในแฟลกชิพสโตร์แห่งนี้คุณจะสามารถสั่งอาหารและขนมปังทำมืออบถ่านไม้ชื่อดังมาทานคู่ไปกับกาแฟได้ ซึ่งการบริการที่ว่านั้นจะเริ่มนำมาใช้กับสาขาในเมืองซีแอตเทิลในปี 2017 และจะขยายไปยัง Starbucks Roastery สาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในนิวยอร์คและเซียงไฮ้ต่อไป

Quote of Creator

“รอคโคและทีมงานของเขาที่ Princi มีความหลงใหลในการสร้างอาหารและขนมอบระดับงานฝีมือ ศิลปะที่น่าตื่นตานี้สามารถสะท้อนให้ผมรู้ว่าควรมีความรู้สึกกับกาแฟของเราอย่างไร” ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ  ซีอีโอ Starbucks

 

 

 

 

Cover 23 3

Nintendo และ Niantic : การกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของผู้ผลิตเกมระดับตำนาน

หากใครได้ติดตามข่าวสารที่มุ่งเป้าไปยังธุรกิจเกมคอนโซล คุณจะรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังซบเซาขั้นหนักจากการรุกรานของโมบายล์เกมทั้งในระบบ iOS และ Android  ท่ามกลางวิกฤติที่รุกเร้านี้บีบคั้นให้ Nintendo ทำการตัดสินใจครั้งใหญ่ด้วยการฉีกอุคมคติหลักขององค์กร แล้วกระโดดเข้าไปสร้างคอนเทนต์โมบายล์เกมอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาเกมร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่างบริษัท Niantic และ Google เคมีทางนวัตกรรมของทั้ง 3 ถูกเขย่ารวมกันออกมาเป็นเกมที่ชื่อว่า ‘Pokemon Go’ เกมเสมือนจริงที่ควบรวมเอาเทคโนโลยีที่คนไม่ค่อยให้ความสนใจอย่าง AR (Augmented Reality) มาใช้ร่วมกันกับคอนเทนต์ Pokemon และระบบ GPS ได้อย่างชาญฉลาด สร้างให้ผู้เล่นทุกคนเป็นเทรนเนอร์ต้องคอยออกไปจับมอนสเตอร์ในสถานที่จริง และนำปีศาจนั้นมาฟูกฟักฝึกฝนให้เก่งขึ้นเพื่อนำมาดูเอลกับเทรนเนอร์อื่นบนโลก รวมถึงสามารถนำมอนสเตอร์ที่เราเลี้ยงดูมาเทรดแลกเปลี่ยนกันได้อย่างสนุกสนาน

Quote of Creator

“ผมคิดอยู่เสมอถึงเกมสุดเจ๋งที่คุณสามารถนำข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่เรามีไปใช้ และผมก็เห็นถึงพลังอำนาจของสมาร์ทโฟนที่นับวันจะแข็งแกร่งมากขึ้น ตรงนี้ทำให้ผมคิดได้ว่าเวลานั้นมาถึงแล้ว เป็นเวลาที่คุณจะสามารถผจญภัยไปในโลกความเป็นจริงบนพื้นฐานของการเล่นเกมได้” จอห์น ฮานเค่ ซีอีโอผู้ก่อตั้งบริษัท Niantic

 

 

 

Cover 23 4

 

Apple : สื่อสารแบรนด์แบบปัง ๆ ด้วย Soft Power

Apple ได้ประกาศกลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ล่าสุดออกมา ซึ่งก็ไม่ใช่ทั้งข่าวคราวอุปกรณ์รุ่นใหม่ หรือเป็นข่าวแพลมถึง OS  รุ่นใหม่แต่อย่างใด หากแต่เป็นสิ่งที่เจ๋งกว่านั้นด้วยการนำ Soft Power (การเผยแพร่วัฒนธรรมด้านความบันเทิง) มาใช้สื่อสารแบรนด์ นั่นคือการสร้างเรียลลีตี้โชว์ฉายบนเครือข่ายความบันเทิงภายใต้แบรนด์ Apple และซีรีส์เรียลลีตี้ที่ว่านั้นมีชื่อว่า ‘Planet of the Apps’ เป็นภาพยนตร์เรียลลิตี้ที่จะเปิดเผยเบื้องหลังวิธีคิดในการสร้างแอพฯ รวมถึงชีวิตและขั้นตอนการทำงานของนักพัฒนาแอพลิเคชั่นแบบเจาะลึกถึงแก่น โดยซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ศิลปินชื่อดัง Will.I.Am และสองโปรดิวเซอร์ทั้ง Ben Silverman (เคยทำ The Office และ Ugly Betty) และ Howard T. Owens (เคยทำรายการ Masterchef และภาพยนตร์ทีวี Quarantine) มาร่วมกันสร้างภาพเสมือนจริงที่เกิดขึ้นใน Ecosystem ของนักพัฒนาแอพฯ ซึ่งตอนนี้ทาง Apple ได้ประกาศเชิญ StartUp ทั้งหลายให้เข้ามาร่วมคัดเลือกเพื่อแสดงไปเป็นที่เรียบร้อย และที่เด็ดกว่านั้นหากแอพฯใดชนะการโหวต ทาง Apple ก็จะนำแอพลิเคชั่นนั้นไปไว้บนแอพสโตร์อีกด้วย ติดตาชมกันได้ในเดือนตุลาคมนี้ หากไม่มีสิ่งใดคลาดเคลื่อน

Quote of Creator

“สร้างอนาคต แก้ปัญหาจากเรื่องจริง สร้างแรงบันดาลใจเพื่อเปลี่ยนชีวิต นี่คือเนื้อเรื่องที่เราอยากบอกว่าแอพลิเคชั่นที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันมันถูกสร้าง พัฒนา และเพาะบ่มออกมาได้อย่างไร” เบน ซิลเวอร์แมน หนึ่งในผู้สร้าง Planet of the Apps

 

 

 

 

Uni

Uniqlo : สร้างความโดดเด่นให้แฟลกชิพสโตร์ด้วยภูมิปัญญาญี่ปุ่น

เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชอปปิ้ง ทำให้ยูนิโคล่คิดสร้างสาขาแฟลกชิพสโตร์แห่งใหม่ที่มีความแปลกและแตกต่างขึ้นมา ความคิดที่ว่าถูกสร้างเป็นรูปร่างชัดเจนในแฟลกชิพสโตร์สาขาใหม่ในเมืองฟลอริด้าที่ดิสนีย์สปริง เมืองจำลองศูนย์กลางของดิสนีย์เวิร์ดรีสอร์ท บนพื้นที่กว่า 25,000 ตารางฟุต ผู้เข้าใช้บริการจะสามารถสัมผัสสินค้าในคอนเซปท์ไลฟ์แวร์อันเป็นซิกเนเจอร์สำคัญของแบรนด์ ครบถ้วนทุกไลน์สินค้าตั้งแต่หัวจรดเท้าในชั้นแรก นั่นคือความโดดเด่นของสินค้า

แต่ที่แปลกและแตกต่างจากที่อื่นก็คือแนวความคิดที่ยูนิโคล่ได้นำภูมิปัญญาด้านหัตถศิลป์ของญี่ปุ่นเข้ามาผนวกรวมไว้สร้างเป็นสินค้า เช่น ชุดยูกาตะผ้าฝ้ายเนื้อเบาที่สามารถสวมใส่สบายได้ทั้งเด็กและสตรี พัดกระดาษอูชิวะลวดลายซามูไร และตัวดารูมะ รวมถึงทีเชิ๊ตลายสวยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเล่นละครคาบูกิ ทั้งหมดมีขายที่นี่ที่เดียว รวมถึงผนังกำแพงยังทำหน้าที่เป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะการพับกระดาษของศิลปินชื่อดังอย่าง เอ๊ดมันน์ อูยย์ และชินทานากะ ทั้งยังมีกิจกรรมพับกระดาษโอริกามิให้ได้เรียนอย่างเพลิน ๆ อีกด้วย นี่คือความต่างอย่างโดดเด่นที่สาขานี้มอบให้สาวกยูนิโคล่ทุกคน

Quote of Creator

“เรามองไปข้างหน้าถึงการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งที่มีความเฉพาะตัวให้แก่ลูกค้าทุกท่าน แน่นอนมันจะไม่เหมือนกับ ยูนิโคล่ที่ไหนในโลก ด้วยผลิตภัณฑ์สุดพิเศษทั้งสินค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจในวิถีของญี่ปุ่น รวมถึงกิจกรรมความสนุกสนานต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าทุกวันเป็นเหมือนวันแรกที่เราเปิด” ฮิโรชิ ทาคิ ซีอีโอของ Uniqlo ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

 

Ama

Amazon : อื่น ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายบนวิถีการแสวงหาโอกาสใหม่

หากสังเกตการณ์ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในตลาดโลก โดยเฉพาะในแวดวงการค้าออนไลน์ คุณจะพบว่าตอนนี้ อเมซอนกำลังริเริ่มสร้างธุรกิจใหม่อย่างมากมาย แต่สิ่งที่อเมซอนเน้นหนักและให้ความสำคัญก็คือเรื่องการขนส่งสินค้าที่อิงกับระบบ Logistic ด้วยการเปิดตัวบริการที่ชื่อว่า Amazon Prime Now บริการส่งอาหารจากแอพลิเคชั่นจากภัตตาคารชั้นนำมายังบ้าน ให้บริการในเมืองซีแอตเทิล พอร์ตแลนด์ และลอสแอนเจลิส ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ไม่เพียงเท่านั้นยังเปิดไลน์บริการการส่งพัสดุด้วยโดรนภายใน 30 นาที ขึ้นมาเพิ่มเติมอีก แม้ว่าจะยังไม่ผ่านมาตรฐานการบินในสหรัฐอเมริกา แต่ตอนนี้เริ่มทดสอบใช้งานแล้วในอังกฤษ

การปรับตัวเพื่อขยายธุรกิจใหม่ของอเมซอนยังมีที่น่าสนใจอีก นั่นคือการเปิด Amazon Books ร้านหนังสือออฟไลน์แห่งแรกของแบรนด์ในเมืองซีแอตเทิลเพื่อให้บริการกลุ่มผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่ชอบซื้อของออนไลน์ โดยหนังสือที่ขายในร้าน Amazon Books นั้นจะคัดแต่หนังสือที่ขายดี เป็นที่ชื่นชอบ และที่สำคัญขายราคาเดียวกับ Amazon.com อีกด้วย ทั้งหมดคือโมเดลธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเพิ่มเติมมูลค่าให้แก่ Amazon โดยที่อาจไม่ต้องง้อการค้าออนไลน์ที่มีการแข่งขันกันอย่างสูงอีกต่อไปในอนาคต

Quote of Creator

“เรามองลูกค้าเป็นเหมือนแขกรับเชิญคนสำคัญในงานปาร์ตี้ และปาร์ตี้นั้นเป็นงานที่เราจัด นั่นคืองานที่เราทำทุกวันเพื่อสร้างมุมมอง และประสบการณ์ของผู้บริโภคให้ดีขึ้นทีละน้อย” เจฟฟ์ เบโซส ซีอีโอบริษัท Amazon

 

 

 

Cover 23 9

 

General Motor : วิธีการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์สุดวิกฤติของยักษ์ใหญ่

วิกฤติเศรษฐกิจหลังปี 2000 บีบคั้นให้ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่าง General Motor(GM) ต้องดิ้นหาทางรอดอย่างถึงที่สุด และทางในการดิ้นหนีตายที่พวกเขาคิดได้คือการนำพาตัวเองเข้าไปสู่ธุรกิจใหม่ด้วยการเข้าไปลงทุนร่วมกับ Lyft เครือข่ายรถยนต์สาธารณะผู้โดดเด่นด้วยแนวคิดการให้บริการแบบ Ride Sharing  ซึ่งในดีลความร่วมมือดังกล่าวทาง GM ใช้เงินก้อนโตราว 500 ล้านดอลลาร์ เข้าไปร่วมพัฒนาโครงข่ายรถขับเคลื่อนตนเองกับ Lyft สร้างขึ้นเป็นโครงข่ายรถให้บริการสาธารณะบนแพลตฟอร์มการใช้บริการรถสาธารณะ โดยที่ทาง GM จะนำรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt ที่ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับของบริษัท Cruise Automation (บริษัทที่ GM เข้าซื้อกิจการในราคา 1,000 ล้านดอลลาร์) ไปให้คนขับในเครือข่าย Lyft ได้นำไปใช้รับส่งผู้โดยสารนั่นเอง

นอกจากจะเข้าไปลงทุนในระบบรถให้บริการสาธารณะแล้ว GM ยังไม่หยุดที่จะแผ่ขยายธุรกิจไปอีก ด้วยการเปิดตัว Maven บริการรถยนต์เช่าในระยะสั้น เพียงหนึ่งวันผ่านแอพลิเคชั่นในเมือง Ann Arbor รัฐมิชิแกน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด จนวันนี้ธุรกิจดังกล่าวสามารถขยายไปยังเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษแล้วในเวลานี้

Quote of Creator

“ตัวผมเองมองเห็นอนาคตของระบบขนส่งส่วนบุคคลที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ ดังนั้นด้วยการทำงานร่วมกันระหว่าง GM และ Lyft เราเชื่อว่าวิสัยทัศน์แห่งอนาคตนั้นจะประสบความสำเร็จเร็วมากขึ้น”

แดเนียล อัมมาน ประธานบริษัท General Motor

 

 

 

abcn

ABC News : รวดเร็ว ฉับไว เกาะติดทุกสถานการณ์ข่าวเลือกตั้งด้วยพลังของ Facebook Live

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใกล้เข้ามาทุกที ในช่วงเวลาอันจดจ่อกระชั้นชิดนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นในเนื้อหา และรายละเอียดอย่างมากของทั้งพรรคการเมือง ผู้สมัคร รวมถึงการนำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวของสำนักข่าวใหญ่ในอเมริกาที่ต่างก็ต้องงัดทุกกลยุทธ์การนำเสนอเพื่อช่วงชิงความสนใจในการรับชมของคนเสพข่าวให้มากที่สุด

หนึ่งในกลยุทธ์การนำเสนอที่น่าสนใจ และเป็นวิธีที่เท่าทันกับเทคโนโลยีการสื่อสารในโลกยุคโซเชียลมีเดียที่สุด ต้องยกให้กับสถานีข่าวยักษ์ใหญ่อย่าง ABC News ที่ได้ร่วมมือกับ Facebook สร้างทีมรายงานข่าวบน Facebook Live เพื่อเกาะติดการประชุมของสองพรรคใหญ่ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันกันแบบสด ๆ 24 ชั่วโมง

ซึ่งการร่วมมือกันตามข้อตกลงคือทาง ABC News จะเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ทั้งการถ่ายทอดการปราศรัยในช่วงไพร์มไทม์ของผู้สมัคร คลิปสกู๊ปทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง คลิปการสัมภาษณ์ประชาชนทุกฝ่าย รวมถึงข่าวเบรกกิ้งนิวส์สดทุกช่วง ซึ่งทางฝั่ง Facebook ก็มีหน้าที่ในการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับการถ่ายทอดสดที่ต้องใช้ดาต้ามาก ๆ ให้กับเพจของสำนักข่าวดังที่มีผู้ติดตามถึง 8.2 ล้านคน ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ติดตามสามารถแสดงความคิดเห็น ถกเถียง ตั้งคำถาม และสามารถส่งตรงไปถึงพรรคการเมืองทั้งสองฝั่งได้ทันทีอีกด้วย นั่นคือมิติใหม่ในการนำเสนอที่คุณกำลังจะได้เห็นในอีกไม่ช้า

Quote of Creator

“Facebook Live เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมของผู้ชม เราต้องการส่งมอบมุมมองที่ครบถ้วนแบบ 360 องศา ของสิ่งที่เกิดบนสนามการเลือกตั้งให้มากที่สุด” โคลบี้ สมิทธ์ รองประธานด้านสื่อดิจิตอลของสถานีข่าว ABC News

 

 

 

 Cover23 10

 Moleskine : มูลค่าเพิ่มใหม่ทางธุรกิจของแบรนด์สมุดโน้ตระดับตำนาน

หากคุณมีความหลงใหลในการบันทึกความคิดออกมาเป็นตัวอักษรบนหน้ากระดาษสมุดโน้ตตัวยง คุณย่อมต้องรู้จักสมุดโน้ตแบรนด์ Moleskine แน่นอน เพราะมันเป็นสมุดโน้ตที่บุคคลระดับตำนาน อาทิ ปิกัซโซ่, เฮมิเวย์, มาติสส์ พกไว้ข้างกายไม่ห่าง อย่างไรก็ตามเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลก็ถึงเวลาที่ Moleskine ต้องปรับตัว  และการปรับตัวนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ที่น่าตื่นตา นั่นคือสมุดบันทึกดิจิทัลอัจฉริยะที่ชื่อ Livescribe พร้อมกับสร้างปากกา Livescribe Pen ขึ้นมาเป็นของคู่กัน

ขั้นตอนการใช้งานของมันก็คือ เมื่อคุณนำ Livescribe Pen มาเขียนลงบนหน้ากระดาษ สิ่งที่คุณเขียนทั้งหมดมันจะถูกเชื่อมและแสดงผลไปยังแอพลิเคชั่น Livescribe ทันที แล้วไม่ใช่เพียงแค่เขียนเท่านั้น ในหน้ากระดาษยังมีการพิมพ์ภาพแป้นคีย์บอร์ด ภาพการสั่งพิมพ์ ภาพการบันทึก ภาพการส่งเมล์ คุณสามารถกดสั่งการฟังก์ชั่นดิจิทัลเหล่านี้ได้ทันที นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างแนบเนียนของ Moleskine จริง ๆ

มากกว่าการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้ว ตอนนี้ Moleskine ยังขยายขอบเขตการค้าไปสู่ธุรกิจใหม่ด้วยการสร้าง Moleskine Café ร้านกาแฟสุดเก๋ในอารมณ์ห้องสมุดขึ้นมาเป็นครั้งแรกที่เมืองมิลาน ซึ่งคาเฟ่ที่ว่านี้คุณจะได้จิบกาแฟชื่อดังประจำเมืองมิลานอย่างแบรนด์ Sevengrams ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินใจกับการชมแกลอรี่จัดแสดงช็อตโน้ต และภาพสเก๊ตช์ของนักสร้างนวัตกรรม สถาปนิก นักออกแบบชื่อดังที่ใช้สมุดโน้ตแบรนด์นี้ รวมถึงการจัดเวิร์คช็อปงานเขียนให้ผู้ใช้บริการได้เข้าร่วมอีกหลากหลายกิจกร

Quote of Creator

“การสร้างคาเฟ่เป็นวิธีการที่เราจะให้ประสบการณ์ทางกายภาพในมิติที่ไม่สามารถจับต้องได้ของแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ในทางที่เราเป็นผู้กำหนด” อาร์ริโก เบอร์นี ซีอีโอของ Moleskine

 

 

 

 

Cover 23 12

True Corporation : มากกว่าธุรกิจสื่อสาร ด้วยการรุกเข้าไปในธุรกิจ MICE และ Live Event

แม้ในวันนี้ธุรกิจภายใต้ร่มเงาของกลุ่ม ทรู คอร์ปอเรชั่น จะเติบใหญ่อย่างมั่นคงแข็งแกร่งในแง่ของธุรกิจสื่อสารทุกรูปแบบ สยายปีกให้บริการอินเตอร์เน็ตครอบคลุมการใช้งานของคนทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามทรูก็ยังไม่หยุดที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่มวลรวมในองค์กรอยู่เสมอ และทิศทางในการดำเนินธุรกิจใหม่ที่กลุ่มทรูเลือกเดินนั่นก็คือธุรกิจ ‘Live Event’ ทั้งการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังทั้งไทยและเทศ รวมถึงการจัดอีเว้นท์กีฬาโดยมีทีมแบงคอก ยูไนเต็ด เป็นตัวนำ

ไม่เพียงแค่การจัดอีเว้นท์ความบันเทิงอย่างเดียว ในอีกขาหนึ่งทางกลุ่มทรูยังรุกเข้าไปในธุรกิจ MICE โดยได้เข้าไปร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับศูนย์การค้าไอคอนสยามเพื่อสร้าง ‘ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์’ ศูนย์ประชุมระดับเวิลด์คลาสที่พร้อมรองรับงานประชุมระดับโลก  งานแสดงระดับนานาชาติ งานแสดงสินค้าระดับพรีเมียม งานนิทรรศการ รวมถึงอีเว้นท์พิเศษต่าง ๆ เช่น การแจกรางวัล งานแข่งกีฬาในร่ม งานแฟชั่นโชว์ งานประกวดนานาชาติ งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ

Quote of Creator

“ธุรกิจ ไลฟ์อีเว้นท์ กำลังมีทิศทางการเติบโตที่น่าสนใจ ในปีที่ผ่านมากลุ่มทรูมีรายได้จากธุรกิจนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเรามีอีเว้นท์อยู่ในแผนงานเป็นจำนวนมากในปีนี้ ซึ่งไลฟ์อีเว้นท์นี้จะเป็นตัวที่เข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจที่ทำอยู่ได้เป็นอย่างดี” ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น

mkteventmag
No Comments

Post a Comment