A Time to Remember : The Great King

เป็นเวลาเกินกว่า 365 วันแล้วนับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช’ พ่อหลวงของปวงชนไทยได้จากไป สิ่งหนึ่งที่พอจะช่วยเยียวยาความเศร้าโศกและความคิดถึงพระองค์ท่านให้บรรเทาเบาลงไปได้บ้าง ก็คือการจัดกิจกรรมรำลึกถึงพระองค์ท่านในรูปแบบต่าง ๆ ตามแต่ที่กำลังความสามารถ และความถนัดของประชาชนในแต่ละกลุ่มจะจัดกิจกรรมและนำเสนอ

 

เราจึงได้เห็นการเกิดขึ้นของกิจกรรมรำลึกถึงในหลากหลายรูปแบบ ทั้งงานเล็กในระดับชุมชน ท้องถิ่น ที่จัดกันทั่วประเทศ หรืองานใหญ่ที่จัดขึ้นในระดับประเทศในธีมงานที่แตกต่างกันไปตามพระราชกรณียกิจที่พระองค์เคยปฏิบัติตลอดระยะเวลาการครองราชย์

 

ในช่วงเวลาอีกไม่กี่วันก่อนจะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ อันเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราคนไทยทุกคนจะได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน ผมเองมีกิจกรรมที่ทรงคุณค่าอีกงานหนึ่งมาแนะนำให้คุณได้ไปชมกัน ซึ่งงานดังกล่าวนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดทูนพระองค์ในฐานะ ‘องค์อัครศิลปิน’ ตีความออกเป็น 3 กิจกรรม จัดขึ้นเป็นนิทรรศการหลักบนชั้น 7, 8 และ 9 ณ  หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร อันประกอบด้วย

• นิทรรศการ “ดิน น้ำ ป่า ฟ้า” แรงบันดาลใจจากพ่อ (10 สิงหาคม – 12 พฤศจิกายน 2560)
• พื้นที่แสดงผลงานของ 45 ศิลปินหลากหลายสาขา ที่ใช้แรงบันดาลส่วนตัวที่เกิดขึ้นจากพระองค์ท่าน มาสร้างสรรค์ผลงานเชิงศิลปะในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะองค์อัครศิลปิน และพระมหากรุณาธิคุณในฐานะองค์อุปถัมภ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมไทย

 

 

 

• นิทรรศการ “พระราชาในดวงใจ” ( 29 สิงหาคม – 26 พฤศจิกายน 2560)
• จัดแสดงผลงานศิลปกรรมอันทรงคุณค่ากว่า 160 ผลงาน จากฝีมือศิลปินชั้นนำของไทยในหลายยุคสมัย พระบรมสาทิศลักษณ์ชื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขนาด  200 x 160 ซม. ของคุณธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ที่วาดด้วยเทคนิคสีอะคริลิคและทองคำบนผ้าใบ, รูปแกะสลักพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ใช้ในธนบัตรผลงานของคุณพินิตย์ พันธประวัติ หรือผลงานที่ชื่อ ‘นวมินทราชา หมายเลข 8’  ภาพพิมพ์ที่สร้างขึ้นจากแม่พิมพ์โลหะและการกัดกรดขนาด 34 x 27.5 ซม. และผลงานของศิลปินชั้นบรมครูอีกหลายชิ้น

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวัตถุสะสมเกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อีกหลายชิ้นที่สามารถเล่าถึงยุคสมัยแห่งการดำรงอยู่ของพระองค์ได้อย่างมีสีสัน มากกว่านั้นในนิทรรศการนี้ยังมีการจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์หายากจำนวนมาก ซึ่งถูกรวบรวมโดยคุณ ศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการ และผู้ก่อตั้งนิตยสารลิปส์

 

 

• นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (2 กันยายน – 7 มกราคม 2561) คงมีโอกาสในชีวิตไม่กี่ครั้งหรอกที่คุณจะได้ชมภาพถ่ายที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยฝีพระหัตถ์พระองค์ท่านในระยะประชิด นี่จึงเป็นสิ่งดีที่ชาวไทยทุกคนไม่ควรพลาด ที่จะได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพผ่านภาพถ่ายกว่า 200 ภาพ แบ่งการนำเสนอเป็น 3 ช่วงรัชกาล ได้แก่ ช่วงต้นรัชกาล : จัดแสดงภาพถ่ายยุคขาว-ดำของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระราชโอรส พระราชธิดา ตั้งแต่วันพระราชสมภพและพระบรมวงศานุวงศ์ ช่วงกลางรัชกาล : จัดแสดงภาพทรงงาน ณ สถานที่และโครงการต่าง ๆ ทั้งด้านการเกษตร การชลประทาน การพัฒนาท้องถิ่น และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และช่วงปลายรัชกาล : จัดแสดงภาพคราวเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังไกลกังวล ทัศนียภาพอันงดงามต่าง ๆ และสุนัขทรงเลี้ยงที่เปี่ยมไปด้วยความน่ารัก สะท้อนภาพลักษณ์เมตตา และความเรียบง่ายของพระองค์ได้อย่างชัดเจน

 

นั่นเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมพอจะเล่าได้ ต้องยอมรับเลยว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งที่ในชีวิตได้มีโอกาสชื่นชมกับนิทรรศการอันแสนยิ่งใหญ่นี้ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกซาบซึ้ง เกิดความปลาบปลื้มปีติภายใต้บรรยากาศอันแสนเงียบงัน จนต้องคว้าแทบเลตขึ้นมาค้นหาพระบรมราโชวาทที่ถูกต้องตรงกับความรู้สึกที่มีต่องานนี้ แล้วผมก็พบเนื้อความนี้ครับ “ถ้าทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ คือความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ด้วยความสุจริต และด้วยความรู้ความสามารถด้วยจริงใจ ไม่นึกถึงเงินทองหรือนึกถึงผลประโยชน์ใด ๆ  ก็เป็นการทำหน้าที่โดยตรงและได้ทำหน้าที่โดยเต็มที่”       

 

เพียงถ้อยความที่ผมได้เล่าไป คงไม่เพียงพอที่จะบรรยายให้ได้เห็นภาพ จึงขอเชิญชวนคุณผู้อ่านไปชมงานทั้งสามงาน ผมเชื่อเหลือเกินว่าคุณจะรำลึกถึงพระองค์ท่านได้อย่างสมบูรณ์ ได้ซึมซับเรื่องราวผ่านการบอกเล่าจากภาพเขียนและภาพถ่ายตรงหน้า ภาพที่กระทบสายตาถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาที่ไหลผ่านเข้าสู่หัวใจ คุณจะสัมผัสได้มากกว่าทุกสิ่งที่ผมบอก… ด้วยตัวของคุณเอง