Top

We Can Created The Better World in Everyday

We Can Created The Better World in Everyday

Text: Boonake A.

 

 

ในวันนี้เรื่องของกระบวนการทาง CSR หรือที่เรียกกันว่า ‘Corporate Social Responsibility’ อาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับการรับรู้ของคนในแวดวงธุรกิจ

แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า CSR นั้นเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีพลังอำนาจมากในการกำหนดทิศทางการทำธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ระหว่างเรื่องการแสวงหาผลกำไรสูงสุดภายใต้เงื่อนไขของการจริยธรรมและจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม

 

ดังนั้น วันนี้ถ้าใครสามารถคิดหรือทำแคมเปญ CSR ได้อย่างชาญฉลาด ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องของธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีเรื่องราวแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าแบรนด์คุณมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

แต่ก็อย่างที่รู้กันว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักการตลาดหรือครีเอทีฟคนไหนที่จะสามารถคิดแคมเปญ CSR ออกมาแบบโดน ๆ โดยเฉพาะการทำ CSR ที่ตอบโจทย์ความต้องของแบรนด์และสังคมได้อย่างตรงจุด

 

MKT Event ฉบับนี้ เราจึงขอนัดหมายสนทนากับคุณกรรณิการ์ จรัสอุไรสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ประเทศไทย, เมียนมาร์ และลาว ของบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ P&G

เธอจะมาแชร์ประสบการณ์การคิด การสร้าง และการลงมือทำโครงงาน CSR ใหญ่ระดับเมกกะโปรเจกต์ของ P&G องค์กรที่ได้ชื่อว่ามีความเชี่ยวชาญในการทำ CSR มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

และหลักใหญ่ใจความของแคมเปญเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ในการสร้างคุณภาพชีวิต สร้างแบรนด์ และสร้างโลกที่ดีขึ้นในทุกวันได้อย่างไร เธอพร้อมแล้วที่จะตอบคำถามเหล่านี้ให้เราฟังอย่างละเอียด

 

 

MKT Event  : วิธีคิดโครงงานด้าน CSR ที่เกิดขึ้นของ P&G ประเทศไทย เริ่มต้นจากอะไร

กรรณิการ์ : เริ่มมาจากปรัชญาการดำเนินธุรกิจของพีแอนด์จีที่ว่า Touching live, Improving life now and for generations to come หมายถึงการนำเสนอสินค้าที่ดี ปลอดภัย มีคุณภาพ และช่วยตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต รวมทั้งสังคม ชุมชน ซึ่งพีแอนด์จีเราได้ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 180 ปี ทั่วโลก และเป็นปีที่ 30 ของพีแอนด์จีประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งนอกจากสินค้าที่ดีมีคุณภาพแล้ว เรายังมีโครงการต่าง ๆเพื่อที่จะนำสินค้าและนวัตกรรมเหล่านั้น เข้าถึงประชาชนที่มีความต้องการ หรือในยามที่มีเหตุภัยธรรมชาติ  ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่พีแอนด์จีได้ออกรายงานประจำปีคือ Citizenship report 2016 มาแทน Sustainability Report ซึ่งมีมานานมากกว่า 15 ปี เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทธรรมาภิบาล และรายงานความคืบหน้าของโครงการเพื่อสังคม นอกจากนี้ทางพีแอนด์จีก็จะดูเสียงสะท้อนความต้องการของคนไทยต่อการกำหนดโครงการเพื่อสังคมอีกด้วย

 

 

MKT Event  : เสียงโหวตของคนไทยที่ได้ มาจากแหล่งไหน

กรรณิการ์ : เราได้รับเสียงตอบรับเหล่านี้มาจากแคมเปญที่พีแอนด์จีประเทศไทยได้เข้าร่วมสนับสนุน UN ในประเทศไทย ในการเปิดตัวแคมเปญที่ชื่อว่า My World เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสกำหนดวาระการพัฒนาของโลกภายหลังปี 2015 ซึ่งในปีแรกของการรณรงค์  เสียงของคนไทยในทั่วทุกภาค ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้พิการ เด็กด้อยโอกาส ผู้ที่อาศัยในเมือง หรือ ที่อยู่ห่างไกล สามารถแสดงความคิดเห็น และทำให้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 จากประเทศสมาชิกกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ทำให้เราได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ในระหว่างการประชุมสมัชชาสามัญประจำปีขององค์การสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา  อย่างรางวัล My World Outreach Award ในปี 2013 และรางวัล  Best Communication Campaign ในปี 2015 เรื่องนี้คือความภาคภูมิใจของพีแอนด์จีประเทศไทย

 

 

MKT Event  : จากการโหวตมีประเด็นอะไรที่คนไทยสนใจมากเป็นพิเศษ

กรรณิการ์ : อันดับต้น ๆ เลยคือเรื่องของการศึกษา การเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด ความเท่าเทียมกันทางเพศ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เหล่านี้เราได้ตอบโจทย์ในพันธสัญญาความรับผิดชอบต่อสังคมของเรา ก็คือเรื่องโครงการน้ำดื่มสะอาด เรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ และเรื่องของสิ่งแวดล้อม

 

 

MKT Event  : เรื่องน้ำดื่มสะอาดนำมาต่อยอดเป็น CSR แคมเปญอย่างไร

กรรณิการ์ : อย่างเรื่องน้ำดื่มสะอาด เราถือเป็นการสร้างนวัตกรรมทางสังคม เรามีผงบำบัดน้ำที่เรียกว่า ‘P&G Purifier of Water’ ที่ทางพีแอนด์จีได้ร่วมมือกันคิดค้นกับศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกิ้นส์ ซึ่งคนที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมก็คือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาด เช่น บนดอย ภูเขา หรือ อาศัยพื้นป่า ชายแดนประเทศ และผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มบริโภค ดังนั้น ทางพีแอนด์จี เราได้ร่วมมือกับองค์กรสาธารณกุศล เพื่อนำนวัตกรรมนี้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่มีความต้องการทั้งสองพื้นที่ เพื่อลดปัญหาโรคระบาด ท้องร่วง อันเนื่องจากบริโภคน้ำดื่มที่ไม่สะอาด

 

 

MKT Event  : ในยุคนี้ประเทศไทยยังมีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำดื่มไม่สะอาดอยู่หรือ

กรรณิการ์ : มีค่ะ ทุกวันนี้ถ้าเราไปตามยอดดอยที่ห่างไกล จะเห็นว่าเขาใช้น้ำประปาภูเขาที่ไม่ได้ผ่านการบำบัด ไม่เพียงแค่ยังไม่บำบัดเท่านั้น น้ำที่เปิดใช้จากแหล่งเดียว บางครั้งต้นทางอาจใช้ซักผ้า ไหลลงมาก็นำมาใช้ล้างก้นเด็ก ต่อมาก็นำมาใช้หุงข้าว ใช้ดื่มกินอะไรแบบนี้ ก็เลยทำให้น้ำมีเชื้อโรคปนเปื้อนเป็นบ่อเกิดของอหิวาตกโรค แล้วยิ่งต้องไปรับผิดชอบงานด้านนี้ในประเทศเมียนมาร์ด้วยแล้วก็ยิ่งพบปัญหานี้มากขึ้น เพราะในแต่ละปีเขามีอัตราการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตของเด็กสูงพอกันกับในแอฟริกาเลย ทั้งหมดก็มาจากปัญหาน้ำดื่มที่ไม่สะอาดทั้งสิ้น

 

 

 

MKT Event  : การนำนวัตกรรมดังกล่าวไปยังผู้ประสบภัย มีรายละเอียดอย่างไร

กรรณิการ์ : อย่างที่ได้บอกไปก็คือเราเข้าไปทำ MOU เป็นพาร์ตเนอร์กับองค์กรสาธารณกุศล เช่นที่เราไปร่วมมือกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยทางเราจะเป็นผู้สนับสนุนทุนในการจัดหาผงบำบัดน้ำพีแอนด์จี รวมทั้งการอบรม สาธิตการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยใช้นวัตกรรมตัวนี้ และ ทางมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ก็จะนำไปกระจายตามหน่วยงานทุกจังหวัดของประเทศ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เมียนมาร์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ฟิลิปปินส์ และประเทศเนปาลในช่วงที่เขาประสบกับภาวะวิกฤติแผ่นดินไหวด้วย

 

 

MKT Event  : แล้วอีกรูปแบบที่คุณได้กล่าวถึงล่ะครับ

กรรณิการ์ : ในส่วนของแบรนด์สินค้าที่เข้ามีส่วนสนับสนุนโครงการน้ำดื่มปลอดภัยพีแอนด์จีนี้ เช่น แพนทีน กับโครงการ “6K Walk” หรือ ผลิตภัณฑ์ เอสเค-ทู กับโครงการ “Clear for Life” เราได้แบรนด์แอมบาสเดอร์ มาร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้เห็นถึงความสำคัญของน้ำดื่มสะอาด และเห็นถึงความยากลำบากของผู้หญิงที่จะต้องเดินโดยเฉลี่ยเป็นระยะทาง 6 กิโล เพื่อนำน้ำมาเลี้ยงดูคนในครอบครัว ตรงนี้เราอยากเน้นให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงที่เชื่อมต่อไปยังภาพลักษณ์ของสินค้าเราที่เข้าไปร่วม

 

 

MKT Event  : อยากทราบประเด็นของกิจกรรมที่ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศบ้าง

กรรณิการ์ : ค่ะ เรื่องนี้ถือเป็น Global Issue ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ตรงที่การส่งเสริมพลังของผู้หญิงให้ก้าวขึ้นมามีโอกาสเท่าผู้ชายมีโจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้หญิงได้มีความก้าวหน้าทัดเทียมกับผู้ชาย ภายในองค์กรพีแอนด์จีเราได้สนับสนุนให้มี Woman Network ขึ้นมาเพื่อเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมทั้งการผลักดันโปรแกรมต่าง ๆ เช่น Flex@Work ที่จะให้พนักงานทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถที่ปรับเวลาการทำงาน ทำงานที่บ้านได้ พร้อม ๆ ไปกับภารกิจที่จะต้องดูแลครอบครัว  หรือการให้บริษัทได้จัดหาสถานที่ให้นมบุตร มี Day Care ที่จะนำบุตรหลานมาที่บริษัทได้ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทพีแอนด์จี ประเทศไทย เราเคยมีกรรมการผู้จัดการที่เป็นสุภาพสตรี และเป็นคนไทยมาแล้วถึง 2 ท่าน และปัจจุบัน เรามีผู้จัดการโรงงานคนแรกที่เป็นผู้หญิงไทยก็คือคุณ ‘จุฑาภัทร บุณย์วงศกร’ ซึ่งเป็น Role Model ให้กับเพื่อนพนักงานหญิงในองค์กร

 

 

ในส่วนของการสนับสนุนองค์กรภายนอก เราได้ร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคประชาชน หลายโครงการอาทิ HeForShe ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์เรื่องการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศของยูเอ็นวีเม็น (UN Women), ในการเสริมพลังสตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ เช่น โครงการร่วมมือระดับ US-ASEAN กับการพัฒนา SME กลุ่มสตรี ให้มี “Great Women Brand” เกิดขึ้น เป็นการสร้างเครือข่าย Supply Chain กลุ่มสตรีนักธุรกิจในอาเซียน,  ‘โครงการสุดยอดแรงบันดาลของผู้หญิง เพื่อผู้หญิง’ ที่ทางพีแอนด์จีร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และผลิตภัณฑ์ดาวน์นี่ให้การสนับสนุน เพื่อเชิดชูเกียรติสุภาพสตรีที่พัฒนาตัวเอง ยืนหยัดขึ้นมาได้และช่วยเหลือคนอื่นด้วย และ โครงการ “สตรีไทยใส่ใจรับผิดชอบ” ที่ร่วมกับห้างแมคโคร ให้ความรู้กับร้านค้าปลีกที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อให้เขานำความรู้ตรงนี้มาใช้ปรับปรุงธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

 

MKT Event  : เมื่อผู้หญิงมีความรู้ในด้านการจัดการธุรกิจเพิ่มขึ้น มันจะส่งผลดีอย่างไรกับเศรษฐกิจในครัวเรือน

กรรณิการ์ : คืออย่างนี้ค่ะจากสถิติของ World Bank เอง จากหลายหน่วยงานที่เขาทำงานวิจัยลักษณะนี้ ซึ่งระบุว่าถ้าเม็ดเงินจากการทำธุรกิจสามารถกระจายโดยตรงไปสู่ผู้หญิงจะทำให้ระบบเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนได้เร็ว และคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัวจะดีขึ้น ลูก ๆ จะได้รับการศึกษาที่ดี มีอาหารการกินและโภชนาการที่ดี ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจะถูกจัดการอย่างมีเหตุผล นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องสนับสนุนให้สตรีมีบทบาทในเรื่องเศรษฐกิจ

 

 

MKT Event  : ในส่วนของโครงงานที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม มีรายละเอียดอย่างไร

กรรณิการ์ : ในด้านสิ่งแวดล้อมเราชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และมีแผนงานที่จะดำเนินการเป็นระยะ โดยโรงงานของพีแอนด์จีอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นโรงงานที่ประหยัดทรัพยากรน้ำ พลังงาน การลดการปลดปล่อยของเสียโดยการนำมาใช้รีไซเคิลให้มากขึ้น ทำให้สินค้าที่เราทุกตัวผลิตภายใต้กระบวนการผลิตที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือมีความเป็น Sustainable Brand อย่างแท้จริง และปีนี้เราได้ประกาศความสำเร็จต่อการบรรลุเป้าหมายสิ่งแวดล้อมปี 2020 นั่นก็คือสามารถลดการใช้พลังงาน ลดการใช้น้ำ และลดปริมาณขยะ ตามเป้าหมาย และจะดำเนินต่อไปเพื่อบรรลุผลระยะยาว นั่นคือ ลดขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) นำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ และใช้วัตถุดิบที่รีไซเคิลมาใช้ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

 

 

 

MKT Event : นอกจาก 3 เรื่องที่เล่าให้ฟัง ทราบว่ายังมีกิจกรรม CSR ที่ผนวกตัวแบรนด์สินค้าเข้าไปร่วมด้วยอีกใช่ไหม

กรรณิการ์ : ใช่ค่ะ ในทุก ๆ โครงการเพื่อสังคม พีแอนด์จีจะคำนึงถึงการนำคุณค่าของแบรนด์สินค้า เข้ามามีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเสมอ ยกตัวอย่าง โครงการ Gift of Learning หรือ มอบของขวัญเพื่อการเรียนรู้ เราจะนำคลินิคตรวจสุขภาพฟันโดยผู้เชี่ยวชาญ สนับสนุนโดยผลิตภัณฑ์ Oral-B เข้ามาให้บริการฟรีกับน้อง ๆ ในกลุ่มด้อยโอกาส มีการให้ความรู้เรื่องการรักษาสุขอนามัยในช่องปากและฟัน ตรวจเสร็จก็มีผลิตภัณฑ์แปรงสีฟันไปแจกด้วย เด็ก ๆ จะชอบมากหรือ กิจกรรมฟุตบอลคลินิค Head &Shoulders ให้แก่เด็กและเยาวชนในสถานพินิจทั่วประเทศ ฝึกสอนโดยโค้ชทีมชาติและโค้ชสโมสรประจำจังหวัด ให้เขาได้ฝึกทักษะฟุตบอล ฝึกความมีวินัย ปลูกฝังสปิริตของนักกีฬาให้แก่เด็กเหล่านั้น

 

 

MKT Event : ผลสะท้อนหรือสิ่งที่ย้อนกลับมาจากการทำโครงการ CSR ต่าง ๆ ของ P&G

กรรณิการ์ : ทำโครงการ CSR เป็นหนึ่งในแผนงาน Citizenship และถือว่าเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ ไม่เพียงแต่จะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์สินค้า การเติบโตขององค์กร แต่ยังสร้างอิมแพคต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือให้สามารถยืนหยัด ลดช่องว่างการพัฒนา ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น เราดำเนินการผ่านมูลนิธิพีแอนด์จีประเทศไทยเพื่อสังคม จดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของพีแอนด์จี ต่อการทำโครงการ CSR ในประเทศไทย ดังนั้นหากเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการ สามารถช่วยแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคได้ เขาจะเชื่อถือในแบรนด์ และกลับมาใช้สินค้าของเรา เมื่อกลับมาใช้สินค้าของเรา เราก็มีรายได้จากตรงนั้นมาจัดกิจกรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่องจนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงดี ๆ ได้ทุกวัน ท้ายที่สุดสังคมก็จะดีตามไปด้วย นั่นคือสิ่งที่ดิฉันมุ่งหวังอยากเห็นจากโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติมจากนี้

 

mkteventmag
No Comments

Post a Comment