รอยเท้าพ่อ…รอเราตาม
หากจะมีใครสักคนหนึ่งที่รักและห่วงใยชาวไทยอย่างมิเคยจืดจางตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา พระนามที่เราทุกคนน้อมรำลึกถึงเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจ ณ ตอนนี้ จะเป็นอื่นใดไปมิได้นอกจาก ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช’ พระผู้เป็นทั้งผู้ครองแผ่นดินและเป็นทั้งพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
ไม่อาจมีถ้อยคำใดที่จะบรรยายได้ถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ภาพที่เราเห็นตลอดมา
บ้านของพระองค์ท่านมิใช่พระราชวังใหญ่โตหรูหรา เพราะบ้านของพระองค์คือบ้านของประชาชนในถิ่นทุรกันดาร
รถยนต์พระที่นั่งมิใช่รถราคาหลายสิบล้าน แต่เป็นรถที่สามารถบุกน้ำลุยป่า
พระกระยาหารที่ทรงโปรดมิใช่เมนูที่ซับซ้อนวุ่นวาย แต่เป็นเมนูเดียวกับที่คนธรรมดาสามัญชอบ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวน 4,447 โครงการ ตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ของพระองค์ ได้สะท้อนให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึงพระวิริยะอุตสาหะ ทรงเสียสละอุทิศพระวรกาย พระราชหฤหัย เพียงเพื่อให้ชาวไทยได้มีที่ทำกิน มีอาชีพ สร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้
ทั้งยังทรงมีสายพระเนตรยาวไกล มิได้มองเพียงแก้ไขปัญหาของวันนี้ แต่พระองค์ทรงดำริและตรัสเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนชาวไทยและลูกหลานที่จะเกิดมาในอนาคตด้วย
ไม่ว่าจะเป็นโครงการแก้มลิงแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำและที่ดินทำกิน
โครงการหลวงแก้ไขที่ทำกินของชาวไทยภูเขาในที่สูง
แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุขมีความยั่งยืน
- โครงการป่าชายเลนเพื่อรักษาสมดุลให้ระบบนิเวศทางทะเล
- โครงการสร้างเขื่อนทั้งเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย
- โครงการฝนหลวงเพื่อแก้ปัญหาความแห้งแล้ง
- โครงการแกล้งดินแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินซึ่งเป็นดินเปรี้ยวหรือดินเป็นกรด
- โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่แก้ไขปัญหาการจัดการทรัพยากรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- โครงการนมอัดเม็ดจิตรลดาแก้ปัญหานมสดล้นตลาด
- โครงการเมืองสหกรณ์เพื่อส่งเสริมอาชีพและเพิ่มพูนรายได้อย่างมีระบบและขั้นตอน
ที่กล่าวมาโครงการเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างจากโครงการทั้งหมดที่พระองค์ทรงพระราชทานไว้เพื่อช่วยให้คนไทยมีความเป็นอยู่ดีขึ้นให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ
นอกเหนือจากความเสียสละของพระองค์ที่พสกนิกรเห็นเป็นรูปธรรมผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวนกว่าสี่พันโครงการแล้ว พระองค์ยังทรงวางรากฐานทางความคิดแก่คนไทยอยู่เสมอผ่านพระบรมราโชวาทในวโรกาสต่าง ๆ เสมอมา หนึ่งในพระบรมราโชวาทที่เราทุกคนระลึกและจดจำได้ดี คือเมื่อครั้งพระราชทานพระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
พระองค์มิได้เคยทรงบังคับให้ใครทำตามพระองค์ แต่ทรงปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง แม้วันนี้พระวรกายของพระองค์มิได้ทรงอยู่ แต่แนวทางคำสั่งสอน พระบรมราโชวาทต่าง ๆ ที่ได้ทรงพระราชทานไว้ เป็นดั่งพรอันประเสริฐที่พ่อสอนลูกให้นำไปยึดมั่นถือปฏิบัติตาม
พระองค์ทรงมอบของขวัญให้พวกเราในทุก ๆ วัน ในทุก ๆ ปี “ตามรอยพระบาท” มิใช่การไปในทุกที่ที่ท่านไป แต่หมายถึงการน้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนมีเพียงหน้าที่เดียวที่จะทำถวายเป็นของขวัญแด่พระองค์ท่าน นั่นคือการทำความดี
“รอยเท้าพ่อย่ำไปทุกแห่งหน พ่ออดทนไม่เคยย่อท้อถอยหลัง
ใครทุกข์โศกป่วยไข้พ่อรับฟัง พ่อเพียงหวังลูกทุกคนสุขสบาย
พ่อตรากตรำลำบากทำงานหนัก ไม่หยุดพักแม้บ่ายเย็นค่ำเช้าสาย
ขอพ่อหลับในแดนสรวงพักผ่อนคลาย ลูกถวายเพียงความดีแต่นี้ไป”
น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
…. ฝนธรรม ผลภาค ….