Ben & Jerry’s : ไอศกรีมที่ไม่ได้มีดีแค่อร่อย
สำหรับคนรักไอศกรีมคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ “เบนแอนด์เจอร์รีส์” ผู้โด่งดังด้วยความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นไอศกรีมที่ค่อนข้างชังก์กี้ คือมีความเข้มข้น เคี้ยวหนึบ และมีรสชาติให้เลือกมากมาย
เบนแอนด์เจอร์รีส์ไม่ได้บรรจุแค่ความอร่อยใส่ลงไปในไอศกรีมเท่านั้น แต่มูลค่าอีกอย่างที่ถูกบรรจุเพิ่มเติมลงไปซึ่งทำให้คนทั่วโลกยอมรับ นั่นคือแก่นความคิดการรับผิดชอบต่อสังคมแบบ Social Enterprise ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้
เบนแอนด์เจอร์รีส์เป็นไอศกรีมที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 เกิดจากการร่วมแรงแข็งขันของเพื่อนรักสองคนที่ผิดหวังจากการใช้ชีวิต เบน โคเฮน และเจอรี่ กรีนฟิลด์ ทั้งคู่ลงเงินคนละ 6,000 ดอลลาร์ เปิดร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ในปั๊มน้ำมันในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา
ทั้งสองช่วยกันคิดค้นสูตรไอศกรีมจนพบเอกลักษณ์ความอร่อย และโด่งดังไปทั่ว ถึงตอนนี้ขยายสาขาไปแล้วมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
เบนแอนด์เจอร์รีส์มีรสให้เลือกหลากหลายทั้งช็อกโกแลตฟัดจ์ ชีสเค้ก บราวนี่ และไอศกรีมแบบ Non-Dairy คือไม่ผสมนมวัวนั่นเอง และไอศกรีมทุกสกู๊ปได้รับการการันตีว่าไม่มีส่วนผสมที่เป็น GMO ทุกวัตถุดิบได้มาอย่างซื่อตรงและสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย ไม่มีการกดราคาชาวนาและเจ้าของฟาร์ม
นอกจากวัตถุดิบชั้นพรีเมียมที่ได้มาจากความแฟร์และความห่วงใยสังคม พวกเขายังทำโครงการดี ๆ มากมาย ทั้งการเข้าร่วมเป็นองค์กร Fair Trade ให้ความสำคัญในเรื่องความเท่าเทียมกันของพนักงานในองค์กรที่ต้องมีคุณภาพดีและเป็นมาตรฐาน เช่น มีชั่วโมงการทำงาน และค่าจ้างแรงงานที่ยุติธรรม อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นต้น
มากกว่านั้น B & J ยังได้บริจาคเงินไปช่วยเหลือสังคมในหลาย ๆ ส่วน อาทิเช่น การบริจาคเงินทุก ๆ 5 เซนต์ ที่ได้จากการขายไอศกรีม 1 ลิตร ให้แก่องค์กรการกุศลเพื่อนำไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ในประเทศด้อยพัฒนา เงินก่อนเสียภาษีได้บริจาคเข้ามูลนิธิ “เบนแอนด์เจอร์รีส์” อันเป็นมูลนิธิที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าในเมืองเซาท์เบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของไอศกรีมนั่นเอง รวมทั้งให้การช่วยเหลือกิจกรรมรณรงค์เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอีกด้วย
นอกเหนือจากนั้น เงินบางส่วนที่เหลือเพียงพอจากการบริจาค ก็ยังนำไปช่วยเหลือเกษตรกรในฟาร์มประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ออแกนิคให้พวกเขา ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความจงรักภักดีต่อสินค้า พวกเขาได้ลูกค้าที่ชื่นชอบทั้งตัวไอศกรีมและชื่นชอบในสิ่งที่พวกเขาทำ ด้านเกษตรกรเองก็รู้สึกภูมิใจในไอศกรีมยี่ห้อนี้ ทำให้อยากส่งสินค้าที่ดีมีคุณภาพ และเมื่อไอศกรีมอร่อยขายดี บริษัทมีกำไร ก็ทำให้พนักงานของเบนแอนด์เจอร์รีส์มีคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วย
ส่วนใครอยากรู้เรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับพวกเขาซึ่งยังมีอีกมาก ลองอ่านได้ที่ www.benjerry.com แต่ถ้าใครอยากพบกับความอร่อยที่มาพร้อมความดี ขอเชิญลิ้มรสไอศกรีมในแบบฉบับของ Ben & Jerry’s ได้เลยวันนี้ที่ชั้น G สยามพารากอน รับรองคุณจะได้อร่อยกับไอศกรีมชังก์กี้รสเยี่ยม แถมยังได้อิ่มเอมใจกับการช่วยเหลือสังคมไปพร้อมกันอีกด้วย