Event Review
THAIFEX-World of Food Asia 2015
มหกรรมอาหารจากครัวไทยสู่ครัวโลก
งาน THAIFEX มหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี ปีนี้ก็เช่นเดียวกันที่ยึดเอาพื้นที่ชาเลนเจอร์ฮอล์ทั้งหมด ตั้งแต่ฮอลล์ 1-3 เป็นสถานที่จัดงานตั้งแต่วันที่ 20-24 พ.ค. 2015 แต่ถึงพื้นที่จะกว้างแค่ไหนนักดื่มนักชิมทั้งหลายก็ไม่ยั่น เดินกันเต็มทุกซอกทุกมุม ก็แหม..ของอร่อยรออยู่เพียบเลยนี่นา
เรามาไล่ดูทีละโซนกันก่อน งานจัดแบ่งเป็นโซนหลัก 5 โซน เริ่มตั้งแต่ โซนอาหารและเครื่องดื่ม โซนบริการจัดเลี้ยง โซนบริการด้านอาหาร โซนเทคโนโลยีอาหาร และโซนการค้าและแฟรนไชส์
ในโซนอาหารนั้นมีทั้งของสดจำพวกเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ไทยแท้จากท้องถิ่นโดยเฉพาะแถบภาคตะวันออกของไทย อาทิ ทุเรียน มังคุด ลองกอง รวมถึงผลไม้แปรรูปที่เป็นสินค้าสำคัญที่ส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ผักผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศก็มีมาให้เลือกกินกันในราคาไม่แพงนัก
นอกจากนี้ยังมีอาหารจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน อิตาลี เยอรมัน เม็กซิโก และเกาหลี งานนี้เนื้อชั้นดีจากญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ทางด้านโซนอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง ขนม เหล่าผู้ประกอบการต่างขนเอาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาเปิดตัวและให้ทดลองชิมกันฟรี ถือเป็นโอกาสทดสอบตลาดไปด้วยในตัว
ตลอดทางเราได้เห็นความน่าตื่นตาตื่นใจของโชว์การทำอาหารจากหลาย ๆ บูธ อย่างบูธสิงห์คอร์เปอเรชั่นได้เชฟกะทะเหล็กมาโชว์ทำเมนูมัสมั่นแกะกลางงาน ในขณะที่บูธซีพีก็ไม่น้อยหน้าคว้าตัว เดี่ยว-สุริยนต์ นักแสดงช่อง 3 มาโชว์ฝีมือทำอาหารสุขภาพ
เช่นเดียวกับโซนเครื่องดื่ม ในโซนนี้เราเห็นได้ชัดถึงตลาดเครื่องดื่มชาและกาแฟที่เติบโตขึ้นอย่างมาก มีหลายแบรนด์มาตั้งคาเฟ่เต็มรูปแบบให้ผู้เข้าชมงานได้ใช้บริการ และเรียนรู้เรื่องวัตถุดิบอย่าง ชา กาแฟ หลากหลายยี่ห้อและหลายแหล่งที่มา รวมถึงอุปกรณ์ชงกาแฟแทบทุกยี่ห้อ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟที่ต้องการพัฒนาตัวเอง สามารถเข้าร่วมอบรมที่ผ่านการรับรองจาก SCAE (Speciality Coffee Association of Europe) และการอบรม Boncafe Training
แต่ที่ถือเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ Celebrity Coffee Bar โชว์จากแชมป์บาริสต้าล่าสุดจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2015 ที่มาแสดงฝีมือให้ได้ดูกันในระยะใกล้ชิด สร้างความตื่นตาตื่นใจและกระตุ้นต่อมรับรสให้อยากชิมรสชาติกาแฟกันเลยทีเดียว
ไล่เรียงกันมาทั้งของคาวและเครื่องดื่มแล้ว ก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานในโซนเบเกอรี่และไอศกรีม ถือว่าอิ่มกันครบมื้อพอดี ที่สำคัญสินค้าแทบทุกอย่างราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป บางครั้งมีนาทีทองได้รับสินค้ากลับบ้านไปฟรี ๆ ก็มี
ในงานนี้ไม่ได้มีแค่ของอร่อยให้ลิ้มลองหรือหอบหิ้วกลับบ้านเท่านั้น ผู้ประกอบการรายใหม่หรือคนที่กำลังหาช่องทางการทำธุรกิจหรืออยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองยังได้ไอเดียใหม่ ๆ ไปพัฒนาธุรกิจกันเพียบ ทั้งยังได้พบกับซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอาหารครบทั้งสาย ตั้งแต่วัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องจักรในการผลิต เทคโนโลยีที่ใช้ในห้องครัว เทคโนโลยีการทำแพคเกจจิ้ง เช่น เครื่องบรรจุสุญญากาศหรือกล่องลักษณะต่าง ๆ รวมถึงได้รู้จักกับธุรกิจโลจิสติกส์ ห้องเย็น และได้เห็นเทคโนโลยีวิศวกรรมการออกแบบโรงงาน กระทั่งซอฟต์แวร์สำหรับภาคบริการ โดยที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำแบบลงลึกในรายละเอียด
เรียกได้ว่าถ้าเริ่มต้นธุรกิจยังไม่ถูก มาเริ่มกันที่งานนี้ก็ไม่เลว ในขณะที่ผู้ประกอบการรายเดิมจะได้ช่องทางการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ความตั้งใจของงานนี้คือการที่เราได้เห็นความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในฐานะที่ประเทศไทยเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและครัวของโลก และเป็นโอกาสดีสำหรับการเจรจาการค้า ซึ่งจะเปิดช่องทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยได้เข้าสู่สายตาคู่ค้าต่างประเทศ โดยวางเป้าให้ประเทศไทยเราเป็นศูนย์กลางการค้าและกระจายอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเมื่อคนทั่วโลกนึกถึงประเทศไทยก็ต้องเห็นภาพสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารได้อย่างชัดเจนในความคิด
เราจึงได้เห็นนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ที่เสริมศักยภาพให้ผู้ร่วมออกบูธและผู้เข้าชมได้รับความรู้ทางด้านการลงทุน สามารถนำไปต่อยอดสู่การเปิดร้านอาหารในต่างประเทศได้ด้วย ดังเช่นนิทรรศการ ‘Thailand Trust Mark’ พร้อมทั้งสนับสนุนการสร้างเครือข่ายด้วยการจัดการประชุมมาตรฐานความปลอดภัยด้านการผลิตอาหารในปัจจุบัน
นิทรรศการ ‘Asian Food Franchise Forum’ เพื่อนำเสนอการพัฒนาและโอกาสทางการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
การประชุม Food Service Forum จากกูรูในวงการอุตสาหกรรม Food Service และการแข่งขันทำอาหารจากวัตถุดิบไทย Global Chef Challenges
ด้านหน้าชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ยังจัดบูธนิทรรศการอาหารเพื่อไลฟ์สไตล์ เช่น บูธ 60+ สินค้าเพื่อผู้สูงวัย, บูธ i+d สินค้าที่ได้รับคัดเลือกว่าโดดเด่น, บูธ DITP Logistics ให้คำปรึกษาด้านการขนส่ง, บูธข้าวไรซ์เบอร์รี่ รักใครให้ RICEBERRY รวมถึงบูธสินค้าและอาหารฮาลาล ซึ่งอาหารฮาลาลเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญมากในปีนี้ เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยติด 1 ใน 5 อันดับของโลกในฐานะผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลภายในปี 2563 ในส่วนนี้ เราจึงมีโอกาสได้เรียนรู้และลองชิม อีกหน่อยเราอาจจะได้เห็นอาหารฮาลาลอยู่ทุกตรอกทุกซอยในประเทศไทยก็เป็นได้
สิ่งดี ๆ ในวงการอาหารถูกบรรจุอยู่ในงาน THAIFEX นี้อีกเพียบเกินกว่าที่เราจะเล่าได้หมด งานมหกรรมนี้จึงได้รับการตอบรับอย่างดีแบบล้นหลามจากทั้งผู้จัดแสดงและผู้เข้าร่วมงานทั่วไป
ส่วนใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศของงานนี้ด้วยตัวเอง ปีหน้าก็ต้องลองมาดู เราเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้คุณทั้งสนุก ทั้งอิ่มอร่อย รวมถึงยังได้ภาคภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมอาหารไทย ที่จะเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราทั้งในวันนี้และในอนาคตยามเมื่อ AEC เกิดขึ้นนั่นเอง
text : Wat.D