Top

ช่วงวันหยุดยาวอันแสนชุ่มฉ่ำอย่างเทศกาลสงกรานต์ได้ผ่านพ้นไป และก้าวเข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้ว แต่ผมเองก็ยังมีเรื่องอยากพูดถึงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้เสียหน่อย

จากที่ได้สังเกตด้วยตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย และผ่านสื่อต่าง ๆ นอกเหนือจากภาพความสุขและรอยยิ้มของคนที่เนื้อตัวเปียกปอนแล้ว ในอีกด้านหนึ่งผมพบว่าสงกรานต์ปีนี้เต็มไปด้วยภาพความรุนแรง จากการตีกันยิงกันของกลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน ภาพความห่ามของหญิงชายที่เล่นน้ำสงกรานต์กันแบบลืมตายจนไปละเมิดสิทธ์ของผู้อื่น รวมถึงภาพความเศร้าของอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนน ทั้งที่เกิดจากคนเมาแล้วขับ และคนง่วงหลับพาคนอื่นไปตายด้วยความประมาทของตนเอง

ภาพอย่างนี้มีให้เห็นทุกวัน แต่ในช่วงเทศกาลนี้ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากขึ้นกว่าทุกปี และไม่เพียงแต่จำนวนที่มากขึ้นเท่านั้น แต่เหตุการณ์น่าสลดเหล่านั้นยังไหลบ่าเข้ามาปะทะความรู้สึกแทบทุกทิศทุกทางผ่านสื่อออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์อีกด้วย

 

จริงอยู่ที่ว่าพัฒนาการทางเทคโนโลยีสื่อสารทำให้เราสามารถเปิดโลกทัศน์ในมิติต่าง ๆ ได้มากขึ้น แต่การเสพข่าวแบบนี้มาก  ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ตัวผมเองอ่านข่าวประเภทนี้ แรก ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่พออ่าน ๆ ไป ชักเริ่มเศร้า เริ่มแค้นพวกขับรถไปชนคนตายโดยประมาท ยิ่งได้มาดูคลิปวัยรุ่นที่ถูกแชร์กันอย่างเอิกเกริกในเฟซบุ๊กก็ยิ่งอินกันไปใหญ่ พาลทำให้รู้สึกหดหู่ สิ้นหวังกับอนาคตประเทศไทยเสียอย่างนั้น จนทำให้หงุดหงิดใจตลอดทั้งวัน ทั้งที่เป็นวันหยุดแท้ ๆ

ซึ่งเชื่อนะว่าหลายคนน่าจะมีความรู้สึกไม่ต่างจากนี้ ทีนี้เราจะทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากสภาพนี้ได้บ้าง

วิธีการเดียวที่พอจะแชร์ให้เป็นประโยชน์ที่ทุกคนพอจะทำได้ ก็คือดึงสติออกมาตั้งมั่นนั่นเอง ซึ่งการกำหนดสตินี้ มีประโยชน์อย่างมากกับความคิดและจิตใจของมนุษย์ยุคข้อมูลข่าวสารท่วมท้นแบบนี้มากนะครับ

 

สติทำให้เกิดความระมัดระวัง หรือรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในจิตใจตนเอง

สติทำให้เราคำนึงถึงสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติในปัจจุบันอย่างตั้งมั่น โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดถึงอดีตและอนาคต

สติยังช่วยสร้างวิจารณญาณให้เราไม่หลงใหลไปกับข้อมูลเท็จที่เข้ามากระทบ ทำให้เราสามารถตระหนักรู้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องก่อนที่เราจะพูด จะคุย หรือจะแชร์ออกไปในโซเชียลมีเดีย

และที่สำคัญสติทำให้เกิดปัญญา สร้างการดำรงชีวิตที่เหมาะสมกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนไปนั่นเอง

 

“ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย” ร๊อคเกอร์หนุ่ม ตูน บอดี้สแลม เคยบอกเอาไว้แบบนั้น        

ใช่ครับ มันแค่โดนทำร้ายให้เป็นรอยแผลขีดข่วน หากคุณมีสติและความสงบสุขในจิต ไม่ว่าปัญหาร้ายแรงท่วมท้นถาโถมแค่ไหน หรือไม่ว่าสื่อในยุคปัจจุบันจะเต็มไปด้วยข่าวร้าย ๆ มากมายเพียงใด มันก็ไม่อาจทำลายจิตใจและตัวตนของคุณได้ เชื่อเถอะ!

 

บุญเอก อรุณเลิศสันติ

boonake888@gmail.com

mkteventmag
No Comments

Post a Comment