Top

อีเว้นท์กำลังจะตายจริงหรือ?

อีเว้นท์กำลังจะตายจริงหรือ?

จิตวิญญาณของอีเว้นท์กำลังจะตาย!!!

จากกระแสดิจิตอลนั้นจริงไหม???

 

ตอนนี้มีใครปฏิเสธกระแสที่ถาโถมเข้าใส่

ของการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลได้บ้าง

 

คงไม่มี!!! ใช่ไหม เพราะทุกวงการ

ธนาคาร  อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งสื่อเองก็ตาม

ล้วนแต่ให้ความสำคัญ กระโจนลงร่วมกับกระแสดิจิทัลแทบทั้งนั้น

 

แล้วสถานการณ์ของอีเว้นท์จะเป็นอย่างไร!!!

งานอีเว้นท์จะตายไหม??

คือ คำถามของคนอีเว้นท์หลายคน คงกังวลไม่มากก็น้อย

ว่ากระแสดิจิทัล จะทำให้ธุรกิจอีเว้นท์ตายหรือไม่

 

คนในแวดวงอีเว้นท์เองไม่ต้องกังวล ผมพยากรณ์ล่วงหน้าไว้เลย

ไม่เกินอีก 5 ปี ดิจิทัลนี่แหละ จะทำให้งานอีเว้นท์โต

 

ถามว่าทำไม!!!!

เสน่ห์ของงานอีเว้นท์ มันคือ การพบปะ

เจอของจริง ทดลองจริง คุยจริง ทุกอย่างจริง

 

ซึ่งแบรนด์ที่ Go Online อย่างเดียว

วันหนึ่งยังไง ก็ต้อง Go Offline แน่นอน

แต่อีเว้นท์นี่แหละ ที่คนดิจิทัลต้องการ

 

ส่วนแบรนด์ที่โตจาก Offline ก็จะยังคงจัดงานต่อไป

เพราะโลกดิจิทัลเอง มันมีขีดจำกัดของมันอยู่

ทำอย่างไร ก็ไม่เหมือนกับสัมผัสกับสินค้าจริง ๆ คนจริง ๆ

ยิ่งดิจิทัลผลักความเป็นคน ให้เครื่องจักรเข้ามาแทนที่มากเท่าไหร่

คนยิ่งถวิลหาความเป็นคนมากขึ้นเท่านั้น

มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องเข้าสังคม

 

โลกดิจิทัลสามารถข้ามกำแพงของเวลาและสถานที่ได้

แต่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านความเป็น “คน” ไปได้แน่นอน

 

ถึงจะพัฒนาจนใกล้ความเป็นมนุษย์ที่สุด

อย่างภาพยนตร์แนวไซไฟที่พูดถึงอนาคต

สุดท้ายมนุษย์ ก็จะรู้อยู่แก่ใจอยู่ดี ว่านี่คือเครื่องจักร ไม่ใช่คน

 

ธรรมชาติของคน เมื่อเรามีอะไร ”มากเกินไป”

เราจะทำกับสิ่งนั้นให้ด้อยค่าลงไปโดยอัตโนมัติ

ส่วนสิ่งไหนที่เรามี “น้อยเกินไป”

เราจะให้ค่ากับสิ่งนั้นมาก จนหาใดเทียบเท่า

เหมือนที่ในวันหนึ่งโลกจะดึงความเป็นมนุษย์

ให้กลับมาคอนเนคกัน

 

ขยับมาใกล้ปัจจุบันอีกนิด เราพอจะสังเกตเห็นอะไรไหมครับ

ว่าเมื่อเทียบกับสื่ออื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ

สื่อ Out of Home ได้ผลกระทบน้อยกว่า

 

ธุรกิจป้ายอาจโดนหางเลขจากขาลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ในขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงแบบนี้

อีเว้นท์กลับได้รับผลกระทบน้อยยิ่งกว่า

ยังพอมีงานอีเว้นท์ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ

แม้จะไม่เยอะเท่ากับ 2-3 ปีที่ผ่านมา

แต่ถ้าไปเทียบกับ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร

อันนี้โดนดิจิทัลจัดหนักไปเรียบร้อย

อย่างที่ผมบอก คนต้องการคอนเนคกันตลอด

เพราะมันเป็นธรรมชาติของเรา

 

ทีวีเองก็อยู่ได้ยากกว่าแต่ก่อน ผู้บริโภคหลายคนตอนนี้

ไม่เปิดทีวีดูกันแล้ว เล่นแต่บนมือถือ

ยังไม่นับคนเจนใหม่ ๆ ที่เขาเกิดขึ้นมากับ Smart Phone

เด็ก ๆ เดี๋ยวนี้อยู่แต่กับโทรศัพท์มือถือ ไม่ติดทีวีกันแล้ว

อนาคตไม่นาน ทีวีจะอยู่ยากแน่นอน

 

ที่ผมบอกแบบนี้!!!  ไม่ใช่ให้คนทำอีเว้นท์นิ่งนอนใจ

แต่เราต้องเอางานอีเว้นท์มาผสมกับโลกดิจิทัลให้ได้

เพราะเราหนีโลกดิจิทัลไม่ได้อีกแล้ว

 

ยกตัวอย่างเอาแบบง่าย ๆ ที่สุดเลยนะครับ

เริ่มจากการเก็บข้อมูล คนที่มาร่วมอีเว้นท์เรา มีการเก็บบ้างไหม??

ถ้าเก็บแล้ว เราเอาไปใช้อะไรไหม หรือไม่เคยใช้เลย!!!

เอาจริง ๆ ข้อมูลตรงนี้ โคตรจะมีประโยชน์เลย

ถ้าคุณเก็บข้อมูลนี้ได้ แค่คุณมีเบอร์โทร หรืออีเมล์เขา

คุณสามารถส่งข่าวอีเว้นท์ถัดไปให้ลูกค้าได้เลย

ไม่ว่าจะเป็นทาง SMS, E-mail หรืออื่น ๆ

 

โอ้ย!!! ง่ายแค่นี้เอง ทำไมต้องมาบอกด้วย

คุณรู้ใช่ไหมว่าแต่ละอีเว้นท์ต้นทุนหลัก ๆ

นอกจากค่าสถานที่ การจัดงาน การตกแต่งสถานที่

ต้นทุนอีกอันที่หนักไม่แพ้กัน คือ การโปรโมทงาน

ซึ่ง SMS, Email ต้นทุนการโปรโมทจะค่อนข้างต่ำกว่าสื่ออื่น ๆ

 

แล้วที่คุณยังไม่รู้อีกเรื่อง คือการโฆษณาผ่าน Facebook เอง

เราสามารถเอารายชื่อ เบอร์มือถือ และอีเมล์ ใส่เข้าไป

แล้วเซ็ทให้โฆษณาของเราแสดงเฉพาะคนในรายชื่อ

ได้เห็นโฆษณาอีเว้นท์ของเราได้อย่างง่ายดาย

Facebook ฉลาดถึงขั้นนำโฆษณาอีเว้นท์ของเรา

ไปแสดงให้คนที่มีโปรไฟล์คล้าย ๆ กับรายชื่อที่เรามีได้เห็นอีก

สุดยอดไหมละครับ!!!!!

 

แล้วจะบอกให้ โฆษณาแบบนี้ โคตรถูกเลย!!!!

ถ้าเทียบกับการใช้สื่อแบบเดิม

 

อันนี้เรียกว่า เรื่องเบื้องต้นเลยนะครับ
ที่จะเอาดิจิทัลมาประยุกต์กับงานอีเว้นท์

เอาแบบเหนือกว่านี้อีกหน่อย!!!

อย่างในช่วงพักครึ่งของ Super Bowl

ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งที่มีคนติดตามมากกว่าครึ่งโลก

ปีนี้ก็จัดเต็ม และเป็นที่พูดถึงเป็นจำนวนมากในสื่อต่างประเทศ

เมื่อการแสดงของ Lady Gaga ที่ยืนอยู่บนแท่นสูง

มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าที่มืดสนิท พร้อมแสงดาวเต็มท้องฟ้า

ซึ่งคงไม่แปลกอะไร ถ้าแสงดาวนั้นเป็นเพียงแค่ไฟธรรมดา

 

แต่สิ่งที่ทุกคนคิดว่าเป็นแสงไฟธรรมดา กลับเคลื่อนที่ได้

และเล่นแปลอักษรเป็นสัญลักษณ์ของสปอนเซอร์ได้

สร้างความตื่นตะลึงไม่แพ้การแสดงบนเวที

สุดท้ายแสงดาวที่ทุกคนเห็น มันคือ “โดรน” จำนวนมาก

ที่เคลื่อนที่เปลี่ยนไปตามที่คนจัดงานต้องการ

 

ถามว่าบังคับทีละเครื่องใช่ไหม??

คงไม่ใช่ มันคงชนกันตกแน่ ๆ

ทางผู้จัดงานต้องมีการเขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่

เพื่อให้โดรนทุกตัวเคลื่อนที่สอดประสานกัน

และไม่เกิดอุบัติเหตุในขณะแสดง

สุดยอดไหมครับ!!!

 

ถึงเวลาแล้วที่คนทำอีเว้นท์ในไทยอย่างเรา

ต้องเห็นความสำคัญของการนำดิจิทัล

มาสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ให้กับผู้ที่เข้าร่วมอีเว้นท์ของเรา

จดจำงานของเราได้ แบบไม่มีวันลืม…

 

โลกเปลี่ยนแปลงเสมอ

คนที่แข็งแรงที่สุดในโลก ยังแพ้ให้กับการเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นอย่าให้โลกบังคับให้เราเปลี่ยน

ถ้ารอถึงตอนนั้น ก็สายเกินไปแล้ว

 

… จงเดินนำหน้าการเปลี่ยนแปลง ก้าวสู่การเป็นผู้นำในเส้นทางของตนเอง ..

 

mkteventmag
No Comments

Post a Comment