การมองเปลี่ยนมุม
สวัสดีท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน MKT Event ฉบับนี้เป็นฉบับที่ 27 แล้ว ในช่วงระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านเลยมา ถึงแม้เราจะจัดทำนิตยสารออกมาฉบับละ 2 เดือน แต่ก็เชื่อมั่นว่าทุก ๆ ฉบับ เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระแบบที่ตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด โดยเฉพาะกับเรื่องราวของอีเวนท์ในคอลัมน์ต่าง ๆ ที่น่าจะช่วยให้หลาย ๆ ท่านได้มองเห็นธุรกิจอีเวนท์ในมุมมองที่กว้างขึ้น
สำหรับ Thinking Back ฉบับนี้ อยากจะขอเขียนถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ทุกคนต่างเคยประสบพบเจอ ความเบื่อหน่ายกับสิ่งเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว ทั้งเรื่องงาน เรื่องธุรกิจ เรื่องส่วนตัว ซึ่งบ่อยครั้งเราก็ยังคงคิดและทำในแบบเดิม ๆ อยู่ซ้ำ ๆ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ดีถึงผลพวงที่จะตามมา เพียงแต่คาดหวังไว้ว่าบางสิ่งบางอย่างอาจจะดีขึ้นในวันหนึ่ง แต่ก็นั่นล่ะ สุดท้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ๆ บนความคาดหวังเดิม ๆ แน่นอนว่ามุมมองในเรื่องราวต่าง ๆ ของเรา…ก็แย่ลง
ดิฉันจึงอยากขอหยิบยกเรื่อง “การมองเปลี่ยนมุม” มาเขียนในวันนี้ เพราะในการทำงานหรือการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการทำงานในวงการอีเวนท์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการสรรหาความแปลกใหม่และการแข่งขันทางความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งล้วนต้องอาศัยมุมมองของความคิดที่กว้างไกลที่สุด เพื่อที่จะสร้างจินตนาการ นำมาผนวกกับความคิด และสรรสร้างทุกความคิดนั้นให้กลายเป็นรูปเป็นร่างเป็นความจริงอย่างเป็นรูปธรรมได้
แต่ทำอย่างไรล่ะ เราถึงจะออกจากการมองมุมเดิมของเราได้?
ลองทบทวนกันดูให้ดี ในความเป็นจริงแล้ว ทุก ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา มันไม่มีเรื่องไหนซ้ำเดิม เรื่องทุกเรื่องผ่านเข้ามา แล้วผ่านออกไป ในทุกเข็มวินาทีที่เดินไปข้างหน้า จะมีเหตุการณ์ใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ในแต่ละช่วงเวลานั้น ๆ เรื่องราวซ้ำ ๆ ที่เรามองเห็น แท้จริงแล้วเป็นกรอบความคิดของตัวเราเองที่มักจะกำหนดให้คิดกันไปเองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ นำไปสู่การแก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยวิธีการเดิม ๆ
เคยมีคนบอกไว้ว่า เวลาเจอกับปัญหา ให้ถอยห่างออกจากปัญหาสักก้าว..2 ก้าว แล้วมองกลับมาที่ปัญหานั้น แยกปัญหาออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่แก้ได้ และส่วนที่แก้ไม่ได้ โดยเริ่มต้นแก้ไขในส่วนที่แก้ได้ก่อน แล้วคุณจะพบว่า ส่วนที่แก้ไม่ได้เหลืออยู่เพียงนิดเดียว และนี่คือหลักการของ “การมองเปลี่ยนมุม”
การที่เราโยนกรอบทางความคิดทิ้งไป เปลี่ยนจุดยืนทางความคิดบ้าง (จุดยืนหรือทิฐิก็ไม่ทราบได้) คิดในมุมที่จะนำไปสู่ทางออก เพื่อจะมองกลับไปยังเรื่องเดิม ๆ ได้ชัดเจนขึ้น คุณจะพบกับภาพใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่ภาพซ้ำเดิม ภาพใหม่หรือความเป็นไปใหม่ ๆ เกิดจากวิธีคิดใหม่ ๆ ที่กว้างไกลขึ้น นำมาซึ่งความสุข ความสำเร็จ เป็นพลังใจให้คุณเดินหน้าต่อไป
และเมื่อคุณสามารถทำแบบนี้ได้บ่อยขึ้น ภาพที่คุณเห็นก็จะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ วิธีการกับความคิดของคุณก็จะเปลี่ยนไป อยากให้ลองนำไปพิจารณากันดู เวลาเดินหน้าไปทุกวัน และโลกหมุนไปไม่เคยหยุด ถ้าคุณยังคงยืนอยู่ในจุด ๆ เดิม ไม่ลองมองหามุมมองใหม่ ๆ ให้ตัวเอง คุณอาจจะตามโลกใบเดิมที่คุณยืนอยู่ทุกวันนี้ … ไม่ทัน
เนตรนิภา สิญจนาคม
netnipas@gmail.com